อัตราว่างงานในประเทศไทย ปี 62 พุ่งกว่า 4 แสนคน


นายวรรณชัย ไพบูลย์บารมี ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายปฏิบัติการ แมนพาวเวอร์กรุ๊ป เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดแรงงานในประเทศไทย ในปีนี้อาจอยู่ในภาวะชะลอตัว และคาดว่าอัตราว่างงานเพิ่มขึ้น 1.1-1.2% หรือราวกว่า 4 แสนคน จากจำนวนผู้ใช้แรงงานที่มีอยู่ราว 38 ล้านคน ซึ่งยังเป็นการคาดการว่างงานยังต่ำกว่าอเมริกาที่อยู่ราว 10%

ทั้งนี้ คาดว่าสาเหตุมาจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก ไม่ว่าจะเป็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน ความผันผวนของค่าเงิน ซึ่งจะส่งผลต่อภาคการ ส่งออกและบริการโดยตรง อีกทั้งในหลายอุตสาหกรรมอยู่ระหว่างการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล คาดว่าจะใช้เวลาอีก 2-3 ปี ซึ่งช่วงดังกล่าวอัตราการว่างงานจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับการปรับตัวของ แต่ละธุรกิจ และคาดว่าตลาดแรงงานจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก

จากผลการสำรวจอัตราความต้องการของตลาดแรงงานในปัจจุบันมีสัดส่วนความต้องการจัดเป็น 10 อันดับ ดังนี้
1. งานขายและการตลาด 22.65%
2. งานบัญชีและการเงิน 12.16%
3. งานวิศวกรและการผลิต 8.62%
4. งานไอที 8.11%
5. งานธุรการ 7.15%
6. งานบริการลูกค้า 6.39%
7. งานระยะสั้นต่างๆ 6.28%
8. งานระดับผู้บริหาร 5.63%
9. งานทรัพยากรบุคคล 5.02%
10.งานโลจิสติกส์ 3.04%

สำหรับกลุ่มธุรกิจที่มีความต้องการแรงงานสูงสุด 3 อันดับ คือ
ธุรกิจการบริการ ได้แก่ ขนส่งและโลจิสติกส์, ค้าปลีก-ค้าส่ง, บริการเฉพาะกิจและที่ปรึกษาด้านต่างๆ

รองลงมา คือ ธุรกิจสินค้าอุตสาหกรรม ได้แก่ ยานยนต์, วัสดุอุตสาหกรรมและเครื่องจักร และปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์
สุดท้ายคือ ธุรกิจด้านเทคโนโลยี ได้แก่ เทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์

อย่างไรตาม ด้วยนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ภาครัฐควรจะส่งเสริมการพัฒนาคน ซึ่งแรงงานไทยยังมีจุดด้อยเรื่องภาษา รวมทั้งการเสริมด้านทักษะแรงงานและด้านการศึกษาเพื่อรองรับกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-Curve) ซึ่งเป็นการต่อยอดกลุ่มธุรกิจเดิมให้มีศักยภาพยิ่งขึ้น