องค์กรธุรกิจควรปรับตัวอย่างไร เมื่อ Disruption is the new normal


ในยุคสมัยที่ความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ไล่ล่าธุรกิจแบบเก่าที่ปรับเปลี่ยนตัวไม่ทันไปจำนวนมากมาย และยังคงเพิ่มความรุนแรงและความถี่มากขึ้นเรื่อยๆ และแน่นอนว่าหากเราต้องการอยู่รอดเราก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้

คุณปฐมา จันทรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด ได้นำประสบการณ์อันล้ำค่าจากการทำงานระดับโลก มาบอกเล่าเอาไว้อย่างน่าสนใจในหลายประเด็น เริ่มด้วยประโยคที่บอกว่า “Disruption is the new normal” เป็นการเริ่มต้นให้ผู้คนตระหนักถึงความเปลี่ยนแปลงของโลกเทคโนโลยีที่ไม่ว่าจะยังไง เราก็จะต้องเผชิญหน้าและปรับตัวอยู่เสมอ

หากจะย้อนไปดูความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น มีปรากฎการณ์ทางเทคโนโลยีในกระแสโลกที่ได้ปรับเปลี่ยนวิธีการและรูปแบบชีวิตแบบเดิมไป ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจอย่าง UBER, Airbnb และ Facebook ซึ่งแต่ละธุรกิจนั้นไม่ได้เป็นเจ้าของรถ ที่พัก และคอนเทนต์ของตัวเอง แต่ได้ใช้ประโยชน์ของการพัฒนาเทคโนโลยี สร้างแพลตฟอร์มที่ทรงประสิทธิภาพ จนสร้างรายได้อย่างมหาศาลไปทั่วโลก

ขณะเดียวกัน หากมองกลับมาที่การบริหารจัดการภายในองค์กร ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงบนโลกเทคโนโลยี คุณปฐมา มองว่า สิ่งที่น่ากังวลภายในองค์กรมีอยู่ 3 เรื่อง คือ

1. ปัจจัยทางการตลาด
2. เทคโนโลยี
3. ทักษะ

สำหรับการปรับตัวในสถานการณ์ Digital Disruption ในแง่มุมของภาคธุรกิจ แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม คือ

1. กลุ่ม Dancing with Disruption คือ กลุ่มที่ไม่ยอมหยุดนิ่ง รับรู้และยอมรับการเกิด Digital Disruption และพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงการทำงานให้สอดคล้องกับสิ่งที่เกิดขึ้น
2. กลุ่ม Trust in the journey คือ กลุ่มที่รับฟัง Feedback จากผู้ใช้งานหรือลูกค้า มาเป็นเสียงสะท้อนในการปรับปรุงแก้ไข พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจให้ก้าวไปข้างหน้า
3. กลุ่ม Orchestrating the future คือ กลุ่มที่คำนึงถึง Business Model ใหม่ๆ และมีการเตรียมแผนพร้อมรับมือสำหรับอนาคต
4. กลุ่ม Innovation in motion คือ กลุ่มที่นำเอา Innovation หรือเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ ที่สอดรับกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

ปิดท้าย คุณปฐมา มองถึงการสร้างวัฒนธรรมภายในองค์กร ว่ามีส่วนสำคัญอย่างมากที่จะนำไปสู่การออกแบบนวัตกรรมหรือสินค้าใหม่ๆ พร้อมส่งเสริมให้เกิดการถ่ายทอดองค์ความรู้ของพนักงานจากรุ่นสู่รุ่น

อ้างอิง: AIS ACADEMY