ความผันผวนของตลาดหุ้นในช่วงเวลาที่ผ่านมาส่งผลกระทบต่อการจัดอันดับความมั่งคั่งของเศรษฐีจีนที่ลดลงจากเดิม แต่จีนยังคงอันดับ 1 ของประเทศที่มีเศรษฐีมากที่สุดในโลก
ตามรายงานของ Hurun Report บริษัทวิจัยสำรวจความมั่งคั่ง พบว่า จำนวนเศรษฐีในประเทศจีน รวมถึงไต้หวัน และฮ่องกง พบว่าความมั่งคั่งลดลงไป 161 คน ในปีที่ผ่านมา จากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ, ตลาดการเงินที่มีการสั่นคลอน และสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ
การสำรวจในครั้งนี้เก็บข้อมูลถึงวันที่ 31 มกราคม 2562 ที่ผ่านมา โดยจำนวนเศรษฐีจีนลดลงจาก 819 คน เหลือ 658 คน เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา แต่ยังคงอันดับ 1 ประเทศที่มีเศรษฐีมากที่สุดในโลกเช่นเดิม ขณะที่เศรษฐีชาวสหรัฐฯ มีจำนวน 584 คน เพิ่มขึ้น 13 คน เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา อยู่ในอันดับ 2 ด้านประเทศไทย ถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 9 โดยมีเศรษฐีจำนวน 50 คน เพิ่มขึ้นมา 6 คน เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
สำหรับเศรษฐีจีนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด คือ Ma Huateng ซีอีโอของ Tencent ที่มีมูลค่าทรัพย์สินลดลง 19% หรือ 38 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เช่นเดียวกับ Dalian Wanda ผู้บริหารต้าเหลียน กรุ๊ป อดีตผู้ที่ร่ำรวยมากที่สุดในจีนที่มีมูลค่าทรัพย์สินลดลง 37% หรือ 17 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
อีกทั้ง จากรายงานดังกล่าว ยังคงระบุว่า Jack Ma ผู้ก่อตั้ง Alibaba ยังคงเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศจีน โดยมีมูลค่าทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากกว่า 20% หรือ 39 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และเมื่อดู 10 อันดับเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลก พบว่า Mukesh Ambani เจ้าของเครือข่ายธุรกิจรีไลแอนซ์ อินดัสตรีส์ เข้ามาอยู่ในอันดับ 8 โดยมีมูลค่าทรัพย์สิน 54,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ที่มา: CNN