รู้จัก “ฉลากเขียว” เครื่องหมายช่วยสะท้อนความยั่งยืนของแบรนด์ต่อสิ่งแวดล้อม
ฉลากเขียวของประเทศไทย ริเริ่มขึ้นโดยองค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Thailand Business Council for Sustainable Development, TBCSD)
วันก่อนได้อ่านข่าว เรื่องการพบเจออ้วกวาฬ หรือ อำพันทะเลในประเทศไทย ที่เกาะสมุย นับเป็นเรื่องแปลกประหลาดว่าทำไมเราต้องตื่นเต้นกับอ้วกของวาฬ แต่สืบค้นไปมา คนในวงการนักทำน้ำหอมจะรู้จักเจ้าสิ่งนี้กันดี ถือว่าเป็นแรไอเท็ม (Rare Item) ชั้นดีเลยทีเดียว ดังนั้น เรามาทำความรู้จักกับ อ้วกวาฬกันดีกว่า
อ้วกวาฬ หรือ อำพันทะเล เป็นสารประกอบอินทรีย์ชนิดหนึ่ง ที่มีลักษณะคล้ายกับอำพัน เป็นสิ่งที่พบได้โดยบังเอิญในมหาสมุทร มีลักษณะเด่น คือ มีกลิ่นหอมและราคาแพงมาก
จริงๆ แล้ว อำพันทะเล มันเกิดขึ้นจากการสำรอก ของวาฬสเปิร์ม เรียกกันง่ายๆก็คือ อ้วกของวาฬนั่นเอง มีลักษณะเป็นก้อนไขมันแข็งๆ มีหลายเฉดสีตั้งแต่สีเทาดำ ไปจนถึงสีโทนอ่อนอย่าง สีส้มหรือสีขาวคล้ายหินอ่อน ส่วนประกอบของมันก็จะประกอบด้วยพวก คลอเรสเตอรอล ไขมัน และแอลกอฮอล์เชิงซ้อนซึ่งทำให้มีกลิ่นหอมเมื่อเวลาผ่านไปนานๆ
โดยธรรมชาติแล้ว วาฬสเปิร์มจะกินสัตว์น้ำไม่มีกระดูกสันหลังจำพวกหมึกเป็นอาหารหลัก แต่จะกินเข้าไปโดยไม่มีการเคี้ยวอย่างละเอียด แต่จะใช้วิธีการกลืนเข้าไปทั้งตัวทำให้ ย่อยยากและเกิดการระคายเคืองต่อกระเพาะอาหาร ร่างกายของมันจึงต้องหลั่งสารบางตัวออกมาเพื่อป้องกันการเกิดบาดแผลในลำไส้ ซึ่งสารดังกล่าวจะไปสะสมเป็นก้อนอยู่ในลำไส้ของวาฬ ซึ่งขณะอยู่ในลำไส้ของวาฬ จะมีกลิ่นเหม็นรุนแรงมาก แต่เมื่อวาฬได้ขับถ่ายออกมาแล้ว ทำปฏิกิริยากับแสงแดด ล่องลอยอยู่ในมหาสมุทรเป็นเวลานานๆ จะมีคุณสมบัติทางเคมี ทำให้มีลักษณะเป็นก้อนแข็งสีขาวและมีกลิ่นหอมเฉพาะตัวที่แตกต่างออกไปในแต่ละก้อน
ทีนี้เรามาดูกันดีกว่าว่ามันทำไมถึงแพง
อำพันทะเล ถูกขนานนามว่าเป็นทองที่ลอยได้ และหาได้ยากมากๆ มีประโยชน์ในการสกัดทำเป็น หัวน้ำหอม จนน้ำหอมแบรนด์ดังๆ หลายแบรนด์ต่างเฝ้ารอคอยการค้นพบและแย่งชิงเพื่อที่จะได้มันมา นอกจากนี้ ยังมีประโยชน์ในการใช้ทำเครื่องสำอาง หรือนำไปแต่งกลิ่นในอาหารหรือไวน์ อีกด้วย ด้วยคุณประโยชน์มากเหล่านี้ จึงทำให้อำพันทะเล ถูกตั้งราคาซื้อขายกันถึงหลักล้านต่อกิโลกรัม
ส่วนวิธีการหาอำพันทะเล มี 2 วิธีคือ
ล่องเรือออกไปล่าวาฬ แล้วผ่าท้องหาจากลำไส้ แต่เนื่องจาก วาฬหัวทุยเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธ์ ปัจจุบันจึงมีการคุ้มครองตามกฎหมายสากล ห้ามล่าวาฬแล้ว เพราะฉะนั้นโอกาสเดียวที่เราจะได้เห็นอำพันทะเลก็คือ ต้องรอให้มันลอยมาติดตามชายฝั่ง ซึ่งโอกาสที่เราจะเห็นอำพันทะเลลอยมาติดชายฝั่งโดยบังเอิญนั้น เป็นไปได้ยากมาก มันก็จึงมีราคาแพงขึ้นไปอีก
หนึ่งในผู้โชคดีมากๆ ที่ดันไปเจอกับมันเข้า ตอนที่เขาเดินเล่นอยู่แถวชายหาด และเขาได้ตั้งราคาขายไว้ที่ 65,000 ปอนด์ หรือประมาณ 3 ล้านบาท โดยมีน้ำหนักแค่ 1.1 กิโลกรัมเท่านั้น
หลังจากนี้ ถ้าคุณมีโอกาสไปเดินเล่นตามชายหาด แล้วเผอิญไปเจอก้อนแข็งๆ คล้ายก้อนหินแบบนี้ ลองหยิบขึ้นมาพิสูจน์กลิ่นดู ไม่แน่คุณอาจจะโชคดีเจอมันแล้วรวยโดยไม่รู้ตัวก็เป็นได้….