อนาคตของธุรกิจโลจิสติกส์ คือการแข่งขันกันในไมล์สุดท้าย

ธุรกิจทางด้านโลจิสติกส์ จะต้องพร้อมที่จะปรับตัวให้สอดคล้องกับสภาพตลาด และความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป ในยุคที่อีคอมเมิร์ซได้รับความนิยมอย่างมากมาย ทั้งจากคนที่อยู่ในเมืองใหญ่และนอกเมืองใหญ่ การวางแผนในเรื่องไมล์สุดท้ายก่อนจะถึงมือผู้รับคือตัวชี้เป็นชี้ตาย

20 ปีที่ผ่านมาไม่ต้องสงสัยเลยว่าอีคอมเมิร์ซได้ทำการเปลี่ยนแปลงโลกของการค้าปลีกไปอย่างถาวรแล้ว ทุกวันนี้ไม่สามารถทำการนิยามได้แล้วว่าธุรกิจไหนเป็นของชาติไหน เพราะร้านค้าเล็กๆ ที่อยู่ในมุมหนึ่งของโลกก็สามารถกลายเป็นผู้เล่นคนสำคัญบนตลาดโลกได้

หากพิจารณาจากยอดขายที่อยู่บนอินเทอร์เน็ตทั่วโลกในปี 2560 ปีเดียวก็ทะลุ 2.3 ล้านล้านดอลลาร์ไปแล้ว การเติบโตของโลกการค้าปลีกจะไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป

เมื่อมีความต้องการสั่งซื้อสินค้าจากทั่วทุกมุมโลก ทำให้การวางกลยุทธ์ด้านโลจิสติกส์ต้องตามให้ทัน นำไปสู่การพัฒนาอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว โดยจะต้องทำการรวมความยืดหยุ่นและนวัตกรรมทางเทคโนโลยีเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ต้องการได้รับสินค้า ในระยะเวลาที่สั้นลงเรื่อยๆ ไม่มีใครอยากรอสินค้านานๆ อีกต่อไป

งานของบริษัทด้านโลจิสติกส์และการขนส่งได้รับการพัฒนาไปอย่างมาก เพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไป ด้วยการขยายการจัดส่งด่วนทั่วโลก โปรแกรมออนไลน์เพื่อสนับสนุนด้านโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ และการติดตามการจัดส่งตามเวลาจริง เหล่านี้คือสิ่งที่มีการปรับปรุงตลอดเวลา

ในขณะเดียวกันหน่วยงานภาครัฐและองค์กรธุรกิจกำลังลงทุนอย่างมีนัยสำคัญเพื่อส่งเสริมมูลค่าของการส่งออกให้การเข้าถึงความช่วยเหลือด้านศุลกากร การสนับสนุนการค้าระหว่างประเทศแบบตัวต่อตัว แต่ความท้าทายด้านโลจิสติกส์ที่สำคัญที่สุดคือการส่งมอบในระยะสุดท้ายก่อนถึงมือผู้รับ หรือที่เรียกว่า ไมล์สุดท้ายนั่นเอง

ปัญหาที่เกิดขึ้นในไมล์สุดท้ายสะท้อนให้เห็นถึงความจริงที่ว่าอีคอมเมิร์ซเป็นเหยื่อของความสำเร็จ ด้วยความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับการส่งของ การสร้างศักยภาพสำหรับการแก้ปัญหาคอขวดและความล่าช้าในขั้นตอนสุดท้ายของการขนส่ง ความยากลำบากจะยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อมีผู้คนจำนวนมากขึ้นทั่วโลกย้ายไปยังพื้นที่เขตเมืองที่หนาแน่น และมีความต้องการสินค้าอีคอมเมิร์ซมากขึ้นเรื่อยๆ

ดีเอชแอล ระบุแนวโน้มสำคัญ 4 ประการที่จะเป็นตัวกำหนดอนาคตของการส่งมอบสินค้าในเมือง ที่มีผู้คนมากกว่า 600 ล้านคน ที่คาดว่าจะมีเพิ่มขึ้นในปี 2030 จากการศึกษาวิเคราะห์ร่วมกับพันธมิตรด้านโลจิสติกส์ พบว่าการต่อสู้เพื่อความสำเร็จในระยะทางสุดท้ายนั้น จะอยู่ที่เรื่องของ การจัดส่งแบบโลคอลเน็ตเวิร์ก ความยืดหยุ่นในการส่ง การจัดการกับเรื่องของโลจิสติกตามฤดูกาล และการนำเอาเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยเข้ามาใช้

เพื่อความสำเร็จในอนาคตและความสามารถในการแข่งขันที่เพิ่มขึ้น บริษัทด้านโลจิสติกส์จะต้องเตรียมความพร้อมอย่างต่อเนื่องในการปรับเปลี่ยนซัพพลายเชน รับสภาพตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปตามความต้องการของลูกค้า นั่นหมายถึงต้องค้นหาโซลูชันการขนส่งแบบอัตโนมัติ ที่ทำงานร่วมกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาช่วย นี่คือภาพรวมของความท้าทายในการส่งสินค้าในไมล์สุดท้าย