บริษัทให้บริการ หรือให้กู้ยืมเงิน โดยไม่คิดค่าบริการหรือดอกเบี้ยได้ไหม?
ในเรื่องนี้มีกฎหมายกำหนดไว้ชัดเจนว่าบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลจะให้บริการหรือให้กู้ยืมเงินโดยไม่คิดค่าบริการหรือดอกเบี้ย หรือมีค่าบริการหรือดอกเบี้ยต่ำกว่าราคาตลาดโดยไม่มีเหตุอันสมควรไม่ได้ครับ เจ้าพนักงานสรรพากรมีอำนาจประเมินค่าบริการหรือดอกเบี้ยที่กิจการสมควรจะได้รับตามอัตราราคาตลาด (ประมวลรัษฎากร มาตรา 65 ทวิ (4) )
แต่อย่างไรก็ตาม หากมีเหตุอันสมควร ก็สามารถทำได้ โดยต้องพิจารณาเป็นเรื่องๆไป เช่น กรณีบริษัทมีความจำเป็นต้องใช้คอมพิวเตอร์ Notebook ในการปฏิบัติงานของพนักงานที่ปฏิบัติงานนอกสถานที่ แต่เนื่องจากพนักงานมีจำนวนมาก หากจะซื้อให้ทุกคนบริษัทก็จะมีค่าใช้จ่ายสูงมาก บริษัทจึงกำหนดระเบียบให้พนักงานกู้ยืมเงินซื้อคอมพิวเตอร์ Notebook เพื่อประโยชน์ของบริษัทในการลดค่าใช้จ่าย และให้พนักงานพัฒนาศักยภาพด้านเทคโนโลยี อันเป็นประโยชน์ต่อบริษัทและพนักงานโดยไม่มีการคิดดอกเบี้ย กรณีดังกล่าวจึงถือได้ว่าเป็นการให้กู้ยืมเงินโดยไม่คิดดอกเบี้ยโดยมีเหตุอันสมควร ไม่ต้องห้ามตามประมวลรัษฎากร มาตรา 65 ทวิ (4) แต่อย่างใด (หนังสือตอบข้อหารือของกรมสรรพากร ที่ กค 0706/9419 ลว. 25 กันยายน 2546)
หรืออีกกรณีหนึ่ง บริษัทได้จัดให้มีสวัสดิการเงินกู้ฉุกเฉินจำนวนตามสมควรแก่พนักงานผู้ได้รับความเดือดร้อนทางด้านการเงินโดยไม่คิดดอกเบี้ย ตามระเบียบของบริษัทที่ได้ประกาศไว้ ถือได้ว่าเป็นการให้กู้เงินโดยไม่มีดอกเบี้ยโดยมีเหตุอันสมควรตามมาตรา 65 ทวิ (4) แห่งประมวลรัษฎากร และกรณีบริษัทได้รับชำระเงินต้นคืนจากพนักงาน บริษัทไม่ต้องนำเงินต้นดังกล่าวมาถือเป็นรายได้ในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา 65 แห่งประมวลรัษฎากร (หนังสือตอบข้อหารือของกรมสรรพากร ที่ กค 0706/4760 ลว. 24 เมษายน 2550)
ในกรณีที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลให้กู้ยืมเงินโดยไม่คิดดอกเบี้ยหรือคิดดอกเบี้ยในอัตราที่ต่ำกว่าราคาตลาดโดยไม่มีเหตุอันสมควร กรมสรรพากรได้วางหลักเกณฑ์ให้เจ้าพนักงานประเมินใช้อำนาจประเมินดอกเบี้ยตามราคาตลาด ดังนี้
1.กรณีนำเงินของตนที่มีอยู่ไปให้กู้ยืม ให้ประเมินดอกเบี้ยที่ได้รับหรือควรจะได้รับตามอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำในเวลาที่มีการกู้ยืม
2.กรณีนำเงินที่กู้ยืมมาจากบุคคลอื่นไปให้กู้ยืม ให้ประเมินดอกเบี้ยรับหรือควรจะได้รับตามอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในเวลาที่มีการกู้ยืม
ทั้งนี้ หากให้กู้ยืมไม่เต็มปี ก็ต้องเฉลี่ยตามจำนวนวันที่กู้ยืมซึ่งบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลขาดประโยชน์อันควรจะได้
แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ที่ [email protected]