สถาบันพลาสติกเปิดบริการพัฒนาผู้ประกอบการพลาสติกสู่อุตสาหกรรมพลาสติก 4.0 ด้วยเทคโนโลยี ไอโอที (IOT) ซึ่งเป็นการนำ IOT มาใช้ในอุตหสาหกรรมพลาติกเป็นครั้งแรกในไทย
จากการสำรวจของสถาบันพลาสติก พบว่าจำนวนสถานประกอบการทั้งหมดมีประมาณ 3,000 ราย โดยกว่า 80% เป็นผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SME ที่มีรูปแบบการผลิตที่เน้นปริมาณ มีการนำระบบช่วยการผลิตเข้ามาประยุกต์ใช้บ้าง แต่ยังคงมีการใช้แรงงานเป็นส่วนสำคัญ อย่างไรก็ตามปัจจุบันเริ่มประสบปัญหาด้านแรงงาน การวิเคราะห์และตัดสินใจ ทำให้ต้องหาแนวทางแก้ไข ซึ่งหลักการของอุตสาหกรรมดิจิทัล และแนวทางการพัฒนาสู่อุตสาหกรรม 4.0 ได้เข้ามาตอบโจทย์ในเรื่องเหล่านี้
ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมพลาสติก ส่วนหนึ่งยังขาดพื้นฐานของอุตสาหกรรม 4.0 บางประการ ซึ่งก็คือการเก็บข้อมูลแบบเรียลไทม์ จึงจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและอินเทอร์เน็ต ร่วมกับอุปกรณ์เซ็นเซอร์ (sensor) ต่างๆ เข้ามาประยุกต์ใช้กับเครื่องจักรหรือเครื่องขึ้นรูปพลาสติก การติดตั้งอุปกรณ์ ไอโอที (Internet of Things :IOT) ให้กับเครื่องขึ้นรูปพลาสติกนี้ เป็นบันไดขั้นแรกสู่การปฏิวัติสถานประกอบการ
บริษัท เอ็มเฟค เป็นผู้พัฒนาโซลูชั่น IOT ให้กับอุตสาหกรรมพลาสติกในครั้งนี้ โดยจะมีการติดตั้งอุปกรณ์เซ็นเซอร์ และแพลตฟอร์มเข้ากับเครื่องขึ้นรูปพลาสติก เพื่อดึงข้อมูล จัดเก็บ และจัดเรียงข้อมูล นำไปสู่การวิเคราะห์ปัญหา พัฒนากระบวนการผลิต และการวิเคราะห์หาต้นทุนที่ถูกลง รวดเร็วและคุ้มค่ามากที่สุด โดยจะประมวลผลผ่านระบบคลาวด์ การเก็บข้อมูลในระบบคลาวด์จะช่วยให้ทราบถึงข้อมูลที่เกิดขึ้นในระหว่างการผลิต ทราบสภาวะการผลิตได้ทันที ผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิคใดก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ค แทบแล็ต หรือสมาร์ทโฟน นอกจากนั้นยังดูแลรักษาเครื่องจักรโดยสามารถออกแบบการซ่อมบำรุงรักษาเชิงป้องกันที่มีประสิทธิภาพ ทั้งยังลดอัตราการเกิดการหยุดทำงาน (break down) ของเครื่องจักรได้อีกด้วย
ความร่วมมือครั้งนี้เกิดขึ้นระหว่าง สถาบันพลาสติก กับ บริษัท เอ็ม เอฟ อี ซี จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็มเฟค โดยมี ดร.สมชาย หาญหิรัญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามความร่วมมือในครั้งนี้