5 เทรนด์ด้านไอทีที่จำเป็นต้องมี เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสการแข่งขันทางธุรกิจ


ทุกปีบริษัทที่ปรึกษาและวิจัยชั้นนำของโลกอย่าง ไอดีซี การ์ทเนอร์ ฟอร์เรสเตอร์ และแมคคินซีแอนด์คอมปานี ต่างออกรายงานคาดการณ์แนวโน้มด้านไอที เพื่อเป็นไอเดียในการสร้างโอกาสใหม่ให้กับธุรกิจ โดยปีนี้ ต่างก็เห็นตรงกันว่า “คลาวด์คอมพิวติ้ง บิ๊ก ดาต้า ไอโอที ปัญญาประดิษฐ์ และบล็อกเชน” จะยังคงมีบทบาทสำคัญอย่างต่อเนื่องอีก 3-5 ปีจากนี้

คลาวด์คอมพิวติ้ง เอดจ์คอมพิวติ้ง

การเริ่มต้นใช้งาน “คลาวด์ คอมพิวติ้ง” ไม่ว่าจะเป็นคลาวด์ส่วนตัว คลาวด์สาธารณะ ไฮบริดคลาวด์ จะมองถึงความคุ้มทุนที่เกิดจากการแชร์ใช้ทรัพยากรไอทีร่วมกันทั้งออนไลน์และออฟไลน์ แต่จากนี้ไป คลาวด์จะมีบทบาทสนับสนุนการทำงานเพื่อสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจมากขึ้น ส่วนตัวช่วยใหม่ที่จะมาเติมประสิทธิภาพของคลาวด์ ได้แก่ “เอดจ์ คอมพิวติ้ง (Edge Computing)” ที่จะมาช่วยลดโหลดการทำงานบนคลาวด์ โดยให้อุปกรณ์ปลายทางสามารถจัดการตัวเองได้ เสริมด้วย “แอปพลิเคชันในแบบไมโครเซอร์วิส (Micro Services)” ซึ่งเป็นการพัฒนาแอปพลิเคชันที่แยกออกเป็นส่วนย่อยๆ ตามฟังก์ชั่นใช้งาน เพื่อให้ง่ายต่อการปรับปรุงแก้ไขผ่านคลาวด์ได้ในเวลาที่รวดเร็ว

บิ๊กดาต้า

ในยุคที่ผู้คนหันมานิยมแสดงความรู้สึกนึกคิด และพฤติกรรมผ่านแฮชแท็กซ์ อิโมจิ สติกเกอร์ไลน์ และยูทูป การหลั่งไหลของข้อมูลผ่านอุปกรณ์ไอโอที หรือการประกอบธุรกรรมออนไลน์ ทำให้ “บิ๊ก ดาต้า” เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องจนเกินระดับของ “เทราไบต์” ไปแล้ว ข้อมูลแบบมีโครงสร้างและไม่มีโครงสร้าง และหน้าตาที่หลากหลายซึ่งไม่ใช่แค่ตัวอักษรหรือรูปภาพอีกต่อไป เครื่องมือวิเคราะห์ บิ๊กดาต้า จึงกำลังถูกพัฒนาให้ทำงานได้ฉลาดขึ้นในการ “กลั่นกรองและวิเคราะห์ข้อมูลที่ใช่” และส่งต่อสู่กระบวนการสนับสนุนการตัดสินใจทางธุรกิจ หรือที่เรียกว่า บิซิเนส อินเทลลิเจนส์ รวมถึงต่อยอดสู่การสร้างนวัตกรรม เช่น เออาร์/วีอาร์ แมชชีนเลิร์นนิ่ง หรือ ปัญญาประดิษฐ์ ที่สามารถยกระดับประสิทธิภาพการทำงาน หรือ เพิ่มโอกาสทางการพัฒนาสินค้าหรือบริการที่โดนใจ และเข้าถึงตัวตนของ “ลูกค้าหรือผู้บริโภค” ในระดับที่รู้ว่า ชอบอะไร ซื้อเมื่อไหร่ และอนาคตอยากซื้ออะไร

ไอโอที

ให้เราได้มากกว่าการเป็นแค่โปรโตคอลหนึ่งที่มีไว้เชื่อมต่ออุปกรณ์ แต่มันคือแพลตฟอร์มที่สามารถ “สร้างและขยายพื้นที่แสดงผล และส่งต่อข้อมูลที่หลากหลายแบบไม่จำกัดโครงสร้าง” ซึ่งองค์กรเอาไปประยุกต์ใช้ได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น การใช้เป็นเครื่องมือส่งต่อ “นวัตกรรมข้อมูลในรูปแบบความจริงเสมือน (เออาร์/วีอาร์)“ เพื่อสื่อสารหรือปลุกกระแสความนิยมในสินค้าและบริการ หรือชูภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งของแบรนด์ผ่านอุปกรณ์ถึงมือลูกค้า การต่อยอดไอโอทีให้อยู่ในรูปของ “เซ็นเซอร์และอุปกรณ์อัจฉริยะ” ที่ช่วยองค์กรในการตรวจติดตาม หรือควบคุมกระบวนการผลิตในงานอุตสาหกรรม คุณภาพของสินค้าหรือบริการ การใช้งานไอโอทีในการผลักดันการเติบโตของตลาดการค้าบนโลกออนไลน์ที่ทำให้เราสามารถขยายพื้นที่การขาย เพิ่มเติมฐานลูกค้า หรือพบช่องทางการสร้างรายได้ใหม่ๆ ให้กับธุรกิจ

เอไอ

การจับมือระหว่างไมโครซอฟท์และฟิตบิทในการพัฒนาแอปพลิเคชันบนวินโดว์ 10 ที่ผสมผสานข้อมูลด้านวิทยาศาสตร์ชีวภาพและเทคโนโลยี เพื่อสร้างโปรแกรมคำนวณการออกกำลังกายที่เหมาะสมเฉพาะบุคคลได้ทันทีผ่านสมาร์ทโฟน อเมซอนช็อปปิ้งพัฒนาโปรแกรมวิเคราะห์เครื่องแต่งกายจากข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสไตล์และแฟชั่น เพื่อเป็นผู้ช่วยด้านแฟชั่นแบบเวอร์ช่วลให้กับนักช็อปทั้งหลาย คือตัวอย่างการเติมเต็มประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าผ่าน “เอไอ” ซึ่งนอกจากจะสามารถ “สร้างการรับรู้โต้ตอบ ปฏิบัติการได้ทันทีที่ร้องขอ” ยังเป็นการยกระดับความเป็นนวัตกรรมของแบรนด์ในสายตาลูกค้า นอกจากนี้ ข้อมูลหรือพฤติกรรมการโต้ตอบของลูกค้ากับเอไอ ยังนำไปใช้ในการวิเคราะห์ปรับปรุงเพื่อเพิ่มรายได้และสร้างโอกาสการขาย โดยเน้นการนำเสนอในจุดที่ลูกค้าสนใจ หรือจากมุมที่ดีที่สุดของสินค้าและบริการ จนสามารถเปลี่ยนการตัดสินใจเป็น “อยากซื้อเดี๋ยวนี้”

บล็อกเชน

ขีดความสามารถของ “บล็อกเชน” ที่ขยายผลจากโลกของฟินเทคสู่โลกของการจัดการธุรกิจ เป้าหมาย คือ “สร้างความน่าเชื่อถือ โปร่งใส และตรวจสอบได้” ด้วยหลักการ “การจัดเก็บฐานข้อมูลแบบกระจาย (Distributed Database) ที่ต่อตรงถึงกันทั้งหมดภายในเครือข่าย” โดยไม่ต้องมีตัวกลางประมวลผลเหมือนฐานข้อมูลแบบรวมศูนย์ การปรับปรุงทุกฐานข้อมูลในเครือข่ายให้ทันสมัยจึงทำได้พร้อมกันทันที ซึ่งลดทั้งเวลาและขั้นตอนการทำงาน การสร้างความโปร่งใสน่าเชื่อถือจากการที่ทุกฐานข้อมูลในเครือข่ายสามารถตรวจสอบย้อนกลับไป-มาซึ่งกันและกันถึงความถูกต้อง ขณะเดียวกัน การขโมย ปลอมแปลง หรือทำลายระบบจะต้องเจาะถึงทุกฐานข้อมูลในเครือข่ายพร้อมกันและในเวลาเดียวกันจึงจะสำเร็จ ซึ่งนั่นทำให้บล็อกเชนได้รับการยอมรับว่า มีความปลอดภัยสูง

ทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยที่จะช่วยเติมพลังให้กับองค์กร เพื่อพร้อมสู้ศึกการแข่งขันในโลกยุคดิจิทัล โลกซึ่งความได้เปรียบด้านเทคโนโลยีและข้อมูล คือหนึ่งในตัวชี้วัดความสำเร็จทางธุรกิจ