คนที่จะทำงานเป็นผู้บริหารได้ต้องมีศักยภาพและมีเคล็ดลับในการปฏิบัติงานที่แตกต่างจากพนักงานทั่วๆ ไปอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งถ้าคุณเองกำลังนั่งอยู่ในตำแหน่งระดับสูงเหล่านี้ และรู้สึกไม่มั่นใจว่าคุณเองจะมีศักยภาพที่เหมาะสม หรือเพียงพอต่อการขับเคลื่อนธุรกิจให้ก้าวไปข้างหน้าได้หรือล่ะก็ ขอแนะนำให้คุณใช้เทคนิคเหล่านี้ในการปรับทัศนคติตัวเอง ให้มีความมั่นใจมากขึ้น รวมถึงพัฒนาทักษะให้ก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดด สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้คุณเห็นความแตกต่างของตัวเองอย่างเห็นได้ชัด
1. คิดบวก มองโลกในแง่ดี ตั้งแต่ตื่นนอน
การเริ่มต้นวันใหม่นั้นเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าคุณตื่นขึ้นมาด้วยความคิดที่ดี หรือกระปรี้กระเปร่า รุ้สึกว่าวันนี้คุณต้องเจอเรื่องที่ดีอย่างแน่นอน ก็จะทำให้เกิดกำลังใจในการทำงานมากขึ้น ช่วยให้คุณมั่นใจในทุกๆ การตัดสินใจ และคิดวิเคราะห์ บริหารจัดการสิ่งต่างๆ ได้อย่างเป็นระเบียบ เรียบร้อย การเริ่มต้นวันด้วยความคิดที่ว่า “คุณจะทำวันนี้ให้ดีกว่าเดิม วันนี้คุณจะต้องสำเร็จ วันนี้คุณจะจัดการงานทุกอย่างให้สำเร็จจงได้” จะทำให้เกิดพลังใจ และช่วยขับเคลื่อนตัวคุณให้ทำงานได้อย่างรวดเร็ว ว่องไว และมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม
2. ตั้งเป้าหมายงานที่ต้องเคลียร์
ลำพังแค่มีความคิดจะดำเนินงานอย่างเดียว อาจจะทำให้ไม่เห็นภาพ และไม่สามารถจัดการงานต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นการเขียน หรือจดบันทึกงานที่คุณต้องเคลียร์ให้แน่ชัดแบบวันต่อวัน ลงตารางเวลาเอาไว้ให้เห็นภาพ จะช่วยให้คุณจัดการงานในวันนั้นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะลำพังแค่จินตนาการอย่างเดียวอาจทำให้คุณหลงลืมงานบางตัวไป หรือใช้เวลามากเกินพอดี แต่กลับกันถ้าคุณวางแผนเป็นอย่างดี เขียนจดบันทึกให้เห็นเป็นรูปธรรมชัดเจน จะช่วยควบคุมความคิดในการทำงานของคุณให้โฟกัสกับงานตรงหน้าได้ดีขึ้นกว่าเดิม และต่อให้งานจะเยอะแค่ไหน คุณก็สามารถบรรลุจุดประสงค์ได้อย่างแน่นอน
3. แบ่งเวลาทำสิ่งต่างๆ ให้ชัดเจน
คุณต้องกำหนดไว้เลยครับว่า วันนี้คุณจะทำงานอะไรบ้าง แก้ไขปัญหาส่วนไหนบ้าง การตั้งเป้าหมายเหมือนอย่างในข้อ2 นั้นสำคัญ และมันจะเชื่อมโยงกับการแบ่งเวลาทำสิ่งต่างๆ ในข้อนี้ด้วย เพราะเมื่อคุณมีงานที่ต้องเคลียร์เรียบร้อยแล้ว คุณต้องกำหนดเวลาในการทำสิ่งเหล่านั้น เช่น วันนี้คุณต้องทำนัดลูกค้า คุณต้องมีประชุมที่ออฟฟิศ และคุณต้องประเมินความเรียบร้อยของบริษัท แต่ในขณะเดียวกัน ชีวิตคุณไม่ได้มีแค่ด้านการทำงานเท่านั้น แต่คุณยังต้องมีชีวิตส่วนตัว ชีวิตครอบครัวรอคุณอยู่ การที่คุณทำงานโดยไม่แบ่งเวลา ไม่มีลิมิตให้ตัวเอง จะทำให้คุณกลายเป็นคนยุ่งตลอดเวลา และทำทุกอย่างช้าเกินควรเพราะมีเวลาเหลือมากเกินไป ดังนั้นให้แบ่งเวลาทำสิ่งต่างๆ อย่างชัดเจน และทำมันให้เสร็จตรงเวลาที่คุณแบ่งไว้ แล้วคุณจะรู้ว่าต่อให้ยุ่งแค่ไหน คุณก็จะยังคงมีเวลาทำสิ่งต่างๆ ที่ตั้งใจไว้อยู่ดี
4. รักษาคอนเนคชั่นไว้กับพนังานทุกคน
ถึงแม้คุณจะเป็นผู้บริหารที่อยู่ในระดับที่สูงเอามากๆ ในการทำงาน แต่คุณก็ไม่ควรมองข้ามพนักงานชั้นผู้น้อยที่เพิ่งเข้ามาใหม่ หรือเป็นฟันเฟืองชิ้นเล็กๆ เพราะการแบ่งแยกปฏิบัติ แสดงออกอย่างชัดเจนกับคนที่ต่ำกว่าตนอย่างไม่เท่าเทียม จะทำให้คุณไม่เป็นที่รักของลูกน้อง และเพื่อนร่วมงาน ทำให้การขอความช่วยเหลือของคุณมีโอกาสโดนปฏิเสธได้ และอาจมีปัญหาการทำงานตามมามากมาย ทั้งลูกน้องวางยา ปล่อยงานเสีย ทำงานแย่ และไม่เต็มฝีมือ กลับกัน แค่เพียงคุณปฏิบัติกับทุกคนอย่างเสมอภาค ยิ้มให้ พูดคุย และทักทายทุกครั้งที่เจอ หรืออย่างน้อยๆ จำชื่อของพวกเขาให้ได้ทุกคน เท่านี้ก็จะช่วยให้คุณเป็นผู้บริหารที่มีแต่คนรัก แลพพร้อมจะปฏิบัติหน้าที่ให้ดียิ่งขึ้น สร้างสังคมการทำงานให้น่าอยู่ เรื่องปวดหัว หรือปัญหาการทำงานของคุณก็จะลดลงอย่างเห็นได้ชัด
5. จดทุกอย่างที่คุณคิดได้
บางครั้งความคิดดีๆ ก็มักจะโผล่เข้ามาในเวลาที่คุณนึกไม่ถึง ส่วนใหญ่จะมาช่วยที่คุณกำลังมีเวลาโฟกัสกับตัวเอง และนึกถึงมันอย่างจริงจัง มีสมาธิ แต่กลับไม่สะดวกที่จะทำมันซะตอนนั้นเลย เช่น ความคิดดีๆ มักจะมาตอนที่คุณกำลังอาบน้ำ ตอนที่คุณกำลังรถติด หรือตอนที่คุณกำลังนั่งคิดอะไรเพลินๆ ระหว่างดูตัวอย่างหนั่ง ซึ่งถ้าคุณไม่จดมันตอนนั้นเลย ก็จะทำให้คุณหลงลืมมันไปตลอดกาล เรื่องสำคัญเหล่านี้มีตั้งแต่ ความคิดไอเดียดีๆ ในการบริหารธุรกิจ หรือเทคนิคการแก้ปัญหาต่างๆ เพราะฉะนั้นพยายามจดทุกอย่างให้ติดเป็นนิสัย อาจจะใช้สมุดโน้ตเล็กๆ หรือจดผ่านสมาร์ทโฟนของคุณก็ได้เช่นกัน
