รู้จัก “ฉลากเขียว” เครื่องหมายช่วยสะท้อนความยั่งยืนของแบรนด์ต่อสิ่งแวดล้อม
ฉลากเขียวของประเทศไทย ริเริ่มขึ้นโดยองค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Thailand Business Council for Sustainable Development, TBCSD)
ทำงานมาหลายปีอยู่ๆ ก็ถูกเลื่อนขั้นให้เป็นผู้นำ กลายเป็นคนที่มีลูกน้องซะอย่างนั้น และแล้วในที่สุดอำนาจก็มาอยู่ในมือ!!
แต่เอ๊ะ!! จะใช้อำนาจแบบไหนดี?
เอาเป็นว่าลองมาดูสิ่งที่คนเป็นผู้นำควรจะมี และปฏิบัติให้ลูกน้องเห็นกันดีกว่า ว่ามีอะไรบ้าง?
1#ความน่าเชื่อถือ(Integrity)
การที่จะทำให้งานประสบความสำเร็จได้ตามเป้าหมายนั้น สิ่งสำคัญก็คือทีมงานต้องมีความเชื่อถือ และเชื่อมั่นในตัวของผู้นำด้วย การกล้ายอมรับในความผิดพลาดของตัวเอง มากกว่าการโยนความผิดให้คนอื่นจะสร้างความน่าเชื่อถือในตัวผู้นำได้มาก
2#สร้างแรงบันดาลใจ(Inspiration)
ไม่เพียงแค่การพาทีมไปสู่ความสำเร็จจากการทำงานเท่านั้น แต่ผู้นำควรจะต้องคอยสร้างแรงบันดาลใจให้กับลูกน้องด้วยเสมอ ซึ่งการพูดและคิดในเชิงบวกจะกระตุ้นเรื่องแรงบันดาลใจพร้อมติดปีกให้พวกเขาได้ทะยานเต็มกำลัง
3#ความนอบน้อม(Humility)
แม้ว่าจะเป็นหัวหน้าหรือผู้จัดการก็ตาม ต้องไม่ลืมที่จะนอบน้อม อ่อนโยนกับผู้อื่น
รวมทั้งการแสดงความช่วยเหลือ และเห็นอกเห็นใจลูกน้องอย่างจริงใจด้วย
4#ความเอาใจใส่(Empathy)
ผู้นำที่ดีไม่ควรเอาใจใส่แค่ความสำเร็จในเรื่องงาน แต่ต้องใส่ใจคุณภาพชีวิตของลูกน้องทุกคน และคอยให้คำแนะนำเป็นที่ปรึกษาเมื่อเกิดปัญหาได้
5#การตัดสินใจ(Decision-Making)
อย่างที่เราได้บอกไปว่า ผู้นำควรกล้าทำกล้ารับ เพราะฉะนั้นการกล้าตัดสินใจเป็นเรื่องที่สำคัญไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจในเรื่องงาน หรือเรื่องของส่วนรวมก็ตาม
6#การสนับสนุน(Support)
เมื่อถึงเวลาที่ลูกน้องจะเติบโตในหน้าที่การงาน หรือเพื่อแสวงหาสิ่งที่สมบูรณ์แบบกว่า ก็ควรสนับสนุน และเปิดโอกาสให้ลูกน้องได้เติบโตอย่างเต็มที่
7#อารมณ์ขัน(Humor)
แค่เพียงการทำงานก็เคร่งเครียดพออยู่แล้ว จะดีกว่ามั้ยถ้าจะเล่นมุขตลกสัก 2-3 มุขเพื่อคลายเครียดน้องๆ ที่ทำงานกันด้วยนะคะ
8#การชื่นชม(Appreciation)
เมื่อผลงานเป็นที่ประจักษ์ ก็อย่าลืมกล่าวขอคุณทีมงานทุกคน รวมทั้งให้เครดิตแก่ผู้ที่ช่วยกันทำงานจนประสบความสำเร็จกันด้วย เพราะคำชื่นชมจากเจ้านายเป็นเสมือนโบนัสในการทำงานได้เหมือนกัน
จากผลวิจัยของนักวิจัยชาวสวีเดนพบว่า
“พนักงานที่มี #หัวหน้าเกรี้ยวกราด มีความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจเพิ่มขึ้น 60% !
สาเหตุมาจากความเครียด ความกดดันจนหัวฟู นั่นเองค่ะ”
“กลับกัน พนักงานจำนวนมากยอมลดเงินเดือนตัวเองลงได้ถึง 10% !
แลกกับการได้ทำงานกับ #หัวหน้าที่ดี”
แต่ถ้าหัวหน้าจะใจดีเกินไปก็ทำให้ลูกน้องสบายจนต้องทำงานแทน หรือโหดเกินไปจนลูกน้องหัวใจวายในออฟฟิศนี่ก็คงไม่ดีอยู่เหมือนกัน
ฝากถึงใครที่กำลังจะเลื่อนขั้นเป็นหัวหน้าในเร็วๆ นี้ อย่าลืมให้ความสำคัญกับสิ่งเหล่านี้กันด้วย เพราะคงไม่ดีแน่ หากต้องคอยมองลูกน้องเรียงแถวกันยื่นใบลาออก เพราะสาเหตุมาจากความเครียดที่เจ้านายเป็นคนสร้าง