กฟน. ซ้อมแผนรองรับเหตุฉุกเฉิน รักษาความมั่นคงระบบไฟฟ้าในพื้นที่จัดพระราชพิธีฯ


วันนี้ (27 มีนาคม 2562) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) จัดการฝึกซ้อมแผนรองรับเหตุฉุกเฉิน ประจำปี 2562 เพื่อซักซ้อมความเข้าใจ การบูรณาการร่วมกันระหว่างหน่วยงานภายใน และภายนอกองค์กร ในการเตรียมความพร้อมรักษาความมั่นคงของระบบไฟฟ้าในพื้นที่เขตพระนคร ซึ่งรองรับการจัดงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ณ การไฟฟ้านครหลวง เขตวัดเลียบ

กฟน. ในฐานะหน่วยงานผู้รับผิดชอบความมั่นคงด้านระบบจำหน่ายไฟฟ้าในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ ได้ให้ความสำคัญในการเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นจากสาเหตุต่างๆ จึงได้จัดให้มีการฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เป็นไปตามแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รวมถึงช่วยเตรียมความพร้อมในช่วงการจัดงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร 

ซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงวันที่ 4 – 6 พฤษภาคม 2562 และยังเป็นการสร้างความเข้าใจรวมถึงมีความสัมพันธ์อันดีกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อบูรณาการร่วมกันในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน อีกทั้งก่อให้เกิดความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงที่เข้าร่วมสังเกตการณ์ โดยครั้งนี้ได้จำลองสถานการณ์ก่อเหตุวินาศกรรมที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้ และความเสียหายต่อระบบไฟฟ้าทำให้ไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้าง ซึ่งได้รับความร่วมมือด้วยดีจากหน่วยงานภายนอก ทั้งกองบัญชาการตำรวจนครบาล และสถานีดับเพลิง ทำให้การฝึกซ้อมฯ สำเร็จตามแผนงานด้วยดี

สำหรับการฝึกซ้อมครั้งนี้ กฟน. ยังได้ประสานงานแจ้งสื่อมวลชน และหน่วยงานอื่น ๆ พร้อมทั้งจัดทำป้ายประชาสัมพันธ์ตามจุดต่างๆ ให้ผู้ใช้เส้นทางรวมถึงประชาชนในบริเวณใกล้เคียงทราบก่อนหน้านี้ เพื่อป้องกันการตื่นตระหนก ซึ่งในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ขึ้นจริง กฟน. ยังมีแนวทางการให้ความช่วยเหลือและเยียวยาเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อชีวิตและทรัพย์สินที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอีกด้วย

#พลังงานเพื่อวิถีชีวิตเมืองมหานคร
Energy for city life, Energize smart living

ดาวน์โหลดฟรี MEA Smart Life Application #แอปเดียวจบครบทุกเรื่องไฟฟ้า คลิก http://is.gd/KlyQKF

Facebook : https://www.facebook.com/497340003626475/posts/2651097128250741?sfns=mo

Website : https://www.mea.or.th/content/detail/87/4457

Twitter : https://twitter.com/mea_news/status/1110844435313520640?s=21

Gnews : https://gnews.apps.go.th/news?news=38093