นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง ได้หารือระดับทวิภาคีกับ รมว.คลัง 2 ประเทศ ในระหว่างการประชุมรัฐมนตรีคลังอาเซียน โดยในส่วนของการหารือทวิภาคีกับ รมว.คลัง สปป.ลาวนั้น ได้พูดคุยกันในประเด็นเรื่อง ASEAN Single Window
ซึ่งขณะนี้ทาง สปป.ลาว ยังไม่มีความพร้อมมากนัก แต่ฝ่ายไทยได้เสนอที่จะให้ความช่วยเหลือในด้านดังกล่าว ซึ่งทำให้เชื่อมั่นว่าภายในปี 2562 นี้จะสามารถเชื่อมโยงระบบ ASEAN Single Window ได้สำเร็จ
“ถ้าสำเร็จ จะช่วยให้การขนส่งสินค้าระหว่างกันในอาเซียนสะดวกรวดเร็วขึ้นกว่าเท่าตัว จากปัจจุบันที่ใช้ระยะเวลาในการขนส่ง 7-14 วัน ซึ่งหากเมื่อรวมกับการพัฒนาระบบการชำระเงินของ ธปท.กับธนาคารกลางในอาเซียนแล้ว จะยิ่งช่วยให้การซื้อขายสินค้าระหว่างกันสะดวกมากขึ้น ส่งผลให้เศรษฐกิจ การลงทุน การท่องเที่ยว ในภูมิภาคขยายตัวได้มากขึ้นกว่าเดิม” นายลวรณ กล่าว
ขณะเดียวกัน สปป.ลาว ได้ขอให้ประเทศไทยสนับสนุนการซื้อไฟฟ้า และสนับสนุนการออกบาทบอนด์ของลาวเพิ่มขึ้น รวมถึงหารือเรื่องการเชื่อมโยงระบบการชำระเงินกับลาวด้วย
“ทาง รมว.คลังของเราได้ให้คำแนะนำไปว่าการระดมทุนมีหลายวิธี การลงทุนในตลาดทุน เช่น การออก Infrastructure fund อย่างเช่นที่ไทยเคยออกกองทุน TIFF ซึ่งทาง ก.ล.ต.ของเราก็ยินดีที่จะสนับสนุนการออก Infrastructure fund ในลักษณะนี้” นายลวรณ ระบุ
ส่วนการหารือในระดับทวิภาคีกับ รมว.คลัง เวียดนาม มีประเด็นที่ฝ่ายไทยได้เตรียมจะส่งมอบฐานะการเป็นประธานอาเซียนให้แก่เวียดนามในปี 2020 โดยได้ขอให้เวียดนามช่วยผลักดันใน 2 เรื่องสำคัญต่อจากที่ไทยดำเนินการอยู่ในฐานะประเทศเจ้าภาพปีนี้ คือ เรื่องความเชื่อมโยงด้านการชำระเงิน และความยั่งยืนทางการเงิน
“เป็น 2 เรื่องที่เป็นความสำคัญของการประชุมในปีนี้ และไทยอยากให้เวียดนามรับไปดำเนินการต่อ” นายลวรณ กล่าว
นอกจากนี้ รมว.คลัง ยังได้หารือกับเลขาธิการอาเซียนในเรื่องการปรับโครงสร้างและวิธีการทำงานของอาเซียน โดยให้นำระบบ Tele Conference มาใช้ในการประชุมระหว่างกันให้มากขึ้น ซึ่งเป็นการใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อช่วยลดปริมาณการจัดประชุมให้น้อยลง นอกจากนี้ยังขอให้ภาคเอกชนที่เป็นคู่เจรจาของอาเซียน เช่น US ASEAN Business Council และ EU ASEAN Business Council มีการทำ CSR กับกลุ่มประเทศอาเซียนให้มากขึ้นกว่าที่ผ่านมา
ขณะที่การประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสกระทรวงการคลังและธนาคารกลางอาเซียนวันนี้ มีประเด็นสำคัญใน 3 เรื่องหลัก ประกอบด้วย
1.ความเชื่อมโยงด้านการพัฒนาระบบการชำระเงิน และการบริการเพื่อสนับสนุนการค้าและการลงทุนในอาเซียน
2.การส่งเสริมให้ภาคการเงินมีแนวปฏิบัติเพื่อให้สนองต่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน และสนับสนุนการเข้าถึงบริการทางการเงิน
3. การสร้างภูมิคุ้มกันและสนับสนุนความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์