เปิดรายได้อาณาจักรเซ็นทรัลพัฒนาที่แต่ละปีสร้างกำไรไม่ธรรมดา


หลังจากเมื่อเย็นวันที่ 10 เมษายน 2562 ที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อมีเพลิงไม้บริเวณชั้น 8 ของห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โดยจากเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ 16 คน และพนักงานบริษัท เสียชีวิต 2 คน

สำหรับห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ อยู่ภายใต้การบริหารของ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ซึ่งดำเนินธุรกิจเกี่ยวการพัฒนา ดูแล และบริหารโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ทั้งในและต่างประเทศ ตลอดจนธุรกิจพัฒนาโครงการศูนย์การค้า

โดยปัจจุบันบริษัทบริหาร ศูนย์การค้าชั้นนำถึง 30 แห่ง, อาคารสำนักงาน 7 แห่ง, โรงแรม 2 แห่ง และ โครงการคอนโดมิเนียม เพื่ออยู่อาศัยอีก 1 แห่ง โดยมีพื้นที่ภายใต้การดูแลรวมทั้งหมดกว่า 6 ล้านตารางเมตร CPN จึงเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าปลีก ประกอบด้วย อาคารสำนักงาน โรงแรม และที่พักอาศัย เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับโครงการ โดย ณ สิ้นปี 2561 CPN มีอสังหาริมทรัพย์ภายใต้การบริหาร ประกอบด้วย ศูนย์การค้า 32 แห่ง อยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 14 แห่ง และในต่างจังหวัด 18 แห่ง (เซ็นทรัล ภูเก็ต ประกอบด้วย เซ็นทรัล ภูเก็ต เฟสติวัล และเซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้า) อาคารสำนักงาน 7 แห่ง ในกรุงเทพฯ โรงแรม 2 แห่ง คือ โรงแรมเซ็นทารา และคอนเวนชันเซ็นเตอร์ อุดรธานี และโรงแรมฮิลตัน พัทยา และโครงการที่พักอาศัย 1 แห่ง ใน กรุงเทพฯ

ธุรกิจศูนย์การค้าเป็นธุรกิจหลักที่สร้างรายได้กว่าร้อยละ 76 ของรายได้รวม รายได้จากธุรกิจศูนย์การค้า ประกอบด้วย รายได้ค่าเช่าพื้นที่ค้าปลีก รายได้จากการให้บริการระบบสาธารณูปโภคและระบบรักษาความปลอดภัย รายได้จากการให้บริการรักษาความสะอาดภายในศูนย์การค้า รายได้ค่าเช่าและการให้บริการพื้นที่ศูนย์ประชุมอเนกประสงค์ และรายได้จากการให้บริการสื่อโฆษณา

หากดูผลประกอบการย้อนหลังจากข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ของบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) พบว่าสามารถทำรายได้ และสร้างกำไรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

  • ปี 2559 รายได้ 30,113 ล้านบาท กำไร 9,243 ล้านบาท
  • ปี 2560 รายได้ 35,455 ล้านบาท กำไร 13,567 ล้านบาท
  • ปี 2561 รายได้ 37,662 ล้านบาท กำไร 11,215 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา ได้แปรสภาพมาเป็นบริษัทมหาชนในปี 2537 และได้จดทะเบียนใน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 2538

ข้อมูลจาก CPN