“เครื่องสร้างน้ำจากอากาศ” นวัตกรรมที่สตาร์ทอัพไทยต้องเร่งพัฒนาเป็นสินค้า


ประเทศไทยถือเป็นพื้นที่หนึ่งซึ่งมีแนวโน้มที่จะเกิดความผันผวนในด้านพฤติกรรมการใช้และเสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำในระดับสูง สาเหตุจากความต้องการที่เพิ่มขึ้น ความแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศ และยังพบว่าคุณภาพน้ำมีแนวโน้มเสื่อมโทรมลงจากกิจกรรมต่างๆ เช่น การประกอบอุตสาหกรรม การคมนาคม การนันทนาการและการท่องเที่ยว จึงจำเป็นที่จะต้องมีการรับมือและการบริหารจัดการเพื่อเตรียมแก้ไขปัญหาน้ำที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่สามารถช่วยลดข้อจำกัดต่างๆ ในอนาคต

รู้จักเครื่องมือในการสร้างน้ำจากอากาศ

AWG ไอเทมทรงคุณค่า พัฒนาการใช้น้ำด้วยการกลั่นกรองจากอากาศ หนึ่งในนวัตกรรมที่น่าสนใจและมีแนวโน้มการเติบโตเป็นอย่างสูงคือ “การแปลงอากาศเป็นน้ำด้วยเครื่องผลิตน้ำจากอากาศ” หรือ Atmospheric Water Generator : AWG โดยนวัตกรรมดังกล่าว สตาร์ทอัพชั้นนำจากประเทศอิสราเอล ได้คิดค้นและพัฒนาเทคโนโลยีการดึงน้ำจากความชื้นในอากาศมาผลิตเป็นน้ำจืดที่สามารถบริโภคได้ สะอาด ปราศจากมลพิษ และเป็นวิทยาการสมัยใหม่ที่สามารถลดภาระการใช้น้ำจากแหล่งน้ำจืดต่างๆ รวมถึงมีความยั่งยืนสูง

ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าปริมาณความต้องการเครื่องผลิตน้ำจากอากาศจะเป็นที่ต้องการในตลาดมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องด้วยการเปลี่ยนแปลงใน 6 ปัจจัย ได้แก่ นวัตกรรมสู่ความเป็นศูนย์ (Innovating to Zero) การเกิดขึ้นของสังคมเมือง กระแสการใส่ใจในสุขภาพ การสร้างความแตกต่างให้กับโมเดลธุรกิจ การลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การค้นหาพลังงานใหม่ๆที่จำเป็นต่อการดำเนินชีวิตในอนาคต รวมถึงในกลุ่มประเทศที่มีสภาพอากาศแห้งแล้งรุนแรง และมีข้อจำกัดด้านทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะสภาพอากาศแบบทะเลทรายและกึ่งทะเลทราย ซึ่งจะก่อให้เกิดปัญหาแหล่งน้ำไม่เพียงพอทั้งน้ำอุปโภค-บริโภค และน้ำสำหรับการเกษตร

ประโยชน์จากการผลิตน้ำสะอาดขึ้นมาใช้เอง

ด้านคุณสมบัติและความน่าสนใจของนวัตกรรม AWG พบว่า ในกระบวนการผลิตน้ำนอกจากจะมีความปลอดภัยและสะอาดแล้ว เครื่องมือดังกล่าวยังสามารถผลิตน้ำดื่มสะอาดได้โดยเฉลี่ยหลักสิบ – พันลิตรต่อวันทั้งน้ำร้อนและน้ำเย็น ประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อน้ำดื่มโดยรวมได้ถึงหลักพันบาทต่อเดือน ช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกจากการซื้อน้ำดื่ม บรรจุขวด น้ำดื่มที่ได้ยังเป็นน้ำที่สะอาด บริสุทธิ์ รสชาติคล้ายน้ำฝน ไม่มีการบำบัดด้วยสารเคมีหรือคลอรีน นอกจากนี้ ยังจะช่วยในเรื่องของระบบชลประทานในพื้นที่ฟาร์ม ที่สามารถลดการกักเก็บน้ำ เหมาะกับการปลูกพืชแนวดิ่งที่มีคุณภาพสูงลดอุปสรรคในการขนส่งหรือลำเลียงน้ำ เนื่องจากสามารถติดตั้งได้ในทุกพื้นที่แม้สภาพแวดล้อมจะไม่มีความเหมาะสม รวมถึงช่วยแก้ปัญหาเรื่องการผูกขาดของตลาดสินค้าน้ำดื่มได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

ช่องทางและโอกาสทางการตลาดของ AWG

คาดการณ์ว่าเครื่องผลิตน้ำจากอากาศจะขยายตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากปริมาณน้ำจืดสำรองที่ลดลงและจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น โดยอัตราการเติบโตของตลาดจะอยู่ที่ 9.5% ต่อปี ส่วนแนวโน้มการใช้เทคโนโลยี AWG ระหว่างปี 2019 – 2022 คาดว่าจะมีการใช้เพิ่มขึ้นอย่างแพร่หลาย โดยในปี 2019 AWG จะถูกนำไปประกอบการชลประทานขนาดใหญ่ของพื้นที่เพาะปลูกในเขตแห้งแล้งและกึ่งแห้งแล้ง ปี 2020 จะมีการใช้ AWG ขนาดใหญ่ในที่พักตามเมืองเล็กๆ และชุมชน ซึ่งจะทำให้ไม่มีมลพิษ มีน้ำสะอาดเพื่ออุปโภคบริโภค และช่วยลดการใช้น้ำตามแหล่งธรรมชาติ ขณะที่ปี 2021 คาดว่าจะมีการติดตั้งระบบ AWG ในรถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงไฮโดรเจน ซึ่งจะช่วยสร้างน้ำจืดได้ตามระยะการเดินทางของรถ ส่วนในปี 2022 คาดว่าน้ำที่ผลิตได้คุณภาพตามหลักเกณฑ์ขององค์การอนามัยโลก (WHO) จะมีรายได้ในตลาดโลกอยู่ที่ 1.1 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ

การเติบโตในกลุ่มตลาดที่สำคัญ

1.ทวีปอเมริกาเหนือ ที่ถือเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดและผู้บริโภคมีความพร้อม (Mature Market) ซึ่งขณะนี้องค์การพัฒนาระหว่างประเทศแห่งแคนาดาและกองทัพเรือสหรัฐอเมริกาได้ให้การสนับสนุนเงินทุนพัฒนาต้นแบบที่หลากหลายเชิงพาณิชย์เพื่อผลิตน้ำดื่มที่ปลอดภัยในอนาคต

2.ทวีปยุโรป กำลังมีการร่วมมือระหว่างผู้คิดค้นนวัตกรรมและผู้ผลิตน้ำพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อผลิตน้ำจืดจากอากาศที่จะถูกนำมาใช้แทนระบบผลิตน้ำจืดจากทะเล

3. เอเชียแปซิฟิก ซึ่งล่าสุดบริษัทยักษ์ใหญ่ของประเทศอินเดียได้ร่วมมือกับสตาร์ทอัพชั้นนำจากอิสราเอล ติดตั้งเครื่องผลิตน้ำจากอากาศทั่วประเทศเพื่อผลิตน้ำดื่มที่ปลอดภัยโดยเครื่องผลิตน้ำจากบรรยากาศขนาดกลางและขนาดใหญ่ สามารถผลิตน้ำจากอากาศได้มากถึง 6,000 ลิตรต่อวัน

โอกาสดีของผู้ประกอบการและสตาร์ทอัพไทย

ปัจจุบัน น้ำกลายเป็นปัจจัยหนึ่งในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของโลกอย่างชัดเจน ประเทศที่มีระบบการจัดการน้ำที่ดี ย่อมส่งผลต่อการพัฒนาของประเทศที่มั่นคงยั่งยืน ดังนั้น การเข้ามาของนวัตกรรม AWG จึงถือเป็นอีกโอกาสสำคัญสำหรับผู้ประกอบการและสตาร์ทอัพไทยในการพัฒนาระบบหรือเครื่องมือดังกล่าวประสิทธิภาพให้มีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น เพื่อส่งต่อไปยังตลาดและผู้บริโภคในกลุ่มพื้นที่ที่มีความต้องการอุปโภค – บริโภคน้ำในระดับที่สูง รวมถึงภูมิภาคต่างๆ ในประเทศไทย นอกจากนี้ การเกิดขึ้นของเทคโนโลยีดังกล่าว ถือว่ามีความจำเป็นอย่างยิ่งกับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต ซึ่งการผลิตพลังงานที่สะอาดและยั่งยืนถือเป็นโจทย์ที่สำคัญที่สุดที่จะต้องเร่งพัฒนาในช่วงเวลานี้

อ้างอิง: สถาบันการมองอนาคตนวัตกรรม สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)