รู้จัก “ฉลากเขียว” เครื่องหมายช่วยสะท้อนความยั่งยืนของแบรนด์ต่อสิ่งแวดล้อม
ฉลากเขียวของประเทศไทย ริเริ่มขึ้นโดยองค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Thailand Business Council for Sustainable Development, TBCSD)
ปัจจุบัน “การขับรถ” กลายมาเป็นหนึ่งในทักษะพื้นฐานของคนรุ่นใหม่โดยไม่รู้ตัว เพราะสะดวกสบายและมีอิสระในการเดินทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สมัยนี้รถยนต์ล้วนแต่เป็นเกียร์อัตโนมัติทั้งนั้น ใครๆ ก็ขับได้ แต่คนรุ่นใหม่มักจะไม่ค่อยรู้จักวิธีดูแลรักษารถยนต์สักเท่าไร
การดูแลรถยนต์ให้อยู่ในสภาพดีอยู่เสมอนั้นเป็นเรื่องสำคัญมาก โดยเฉพาะในเรื่องของความปลอดภัยบนท้องถนนของทั้งคนขับ และผู้ร่วมทาง เมื่อพูดถึงเรื่องของการดูแลรถยนต์ด้วยตัวเองอาจฟังดูเป็นเรื่องยาก สำหรับใครหลายคน และคงคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัว จึงมักฝากความหวังไว้กับช่างศูนย์ในระยะประกัน เมื่อหมดประกันแล้วก็ไม่ได้สนใจดูแลรักษารถยนต์ที่รักอีกเลย
เคล็ด(ไม่)ลับสำหรับการดูแลรถง่ายๆ แบบคนรุ่นใหม่
1. เช็คลมยางก่อนสตาร์ทรถ ช่วยลดอุบัติเหตุ
การตรวจเช็คลมยางเป็นการดูแลรถที่ง่ายที่สุด เนื่องจากสามารถสังเกตได้ด้วยสายตา ความดันลมยางที่เหมาะสมจะช่วยป้องกันการสึกหรอของยาง ทำให้ยางเกาะถนนได้เป็นอย่างดี และช่วยให้รถยนต์ทรงตัวได้ดี วิธีสังเกตว่าความดันลมยางลดลงหรือไม่ สามารถทำได้โดยการสังเกตล้อยางทุกด้านว่าแฟ่บลงหรือไม่ หรือรู้ได้จากการที่พวงมาลัยหนักขึ้นขณะขับรถ จึงควรหมั่นสังเกตและตรวจลมยางก่อนการออกเดินทาง และเติมลมให้เรียบร้อยอยู่เสมอเมื่อมีโอกาส
2. เติมน้ำฉีดกระจกปัดน้ำฝนเองได้ ง่ายนิดเดียว
ทัศนวิสัยในการมองเห็นนั้นเป็นสิ่งสำคัญในการขับรถ หากกระจกรถของท่านขุ่นมัวไปด้วยคราบสกปรกที่เกิดขึ้นในระหว่างการเดินทาง และไม่มีน้ำฉีดกระจกเหลือ ย่อมไม่ใช่เรื่องสนุกแน่ๆ การตรวจที่ปัดน้ำฝนและกระจกปัดน้ำฝนนั้นควรทำเดือนละหน โดยการเปิดฝากระโปรงรถ สังเกตสัญลักษณ์ที่ปัดน้ำฝน หรือตรวจสอบคู่มือประจำรถเพื่อหาถังน้ำฉีดกระจก เปิดฝา เติมน้ำสะอาดลงให้ถึงขีดที่กำหนด แค่นี้ก็เรียบร้อย ส่วนที่ปัดน้ำฝนนั้นควรตรวจเช็คสภาพของยางอย่างละเอียด โดยสภาพที่ดีของยางส่วนที่สัมผัสกับกระจกนั้นควรเป็นเหลี่ยมมุมชัดเจน เพื่อประสิทธิภาพในการทำความสะอาดที่ดีนั่นเอง
3. ตรวจหม้อน้ำ จำเป็นกว่าที่คิด
การตรวจหม้อน้ำเป็นอีกหนึ่งเรื่องพื้นฐานในการดูแลรถที่ทำได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง หม้อน้ำทำหน้าที่ระบายความร้อนของรถยนต์ ดังนั้นควรตรวจเช็คให้มั่นใจว่าหม้อน้ำอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์อยู่เสมอ โดยควรตรวจระดับน้ำในหม้อน้ำอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง
หากพบว่าระดับน้ำพร่องลง ควรตรวจหารอยรั่วซึม เติมน้ำสะอาดลงในหม้อน้ำจนถึงขีดที่กำหนด คือขีด MAX เพื่อช่วยให้ระบบระบายความร้อนในรถยนต์เป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบอยู่เสมอ
4. ยางอะไหล่ก็ต้องการความเอาใจใส่
แม้เป็นเพียงอุปกรณ์สำรองไว้ใช้ในยามคับขัน แต่ยางอะไหล่ก็ต้องการความใส่ใจไม่แพ้ส่วนอื่นของรถยนต์เช่นกัน ยางอะไหล่ที่ถูกเก็บอยู่ท้ายรถนั้นจะคายลมออกทีละน้อยอยู่เสมอ ดังนั้นควรหมั่นตรวจเช็คยางอะไหล่อย่างน้อยเดือนละครั้ง และเติมลมยางให้มากกว่าปกติไว้นิดหน่อยอยู่เสมอ นอกจากนี้ ควรตรวจเช็คให้มั่นใจว่ายางอะไหล่ไม่ได้ถูกเก็บไว้นานจนมีสภาพแข็งกรอบจนใช้การไม่ได้ในยามจำเป็น
5. เช็คน้ำมันเครื่อง
น้ำมันเครื่องเป็นตัวช่วยหล่อลื่นและลดการสึกหรอของเครื่องยนต์ ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อเครื่องยนต์และสมรรถนะของเครื่องยนต์เป็นอย่างมาก การตรวจเช็คน้ำมันเครื่องนั้นควรทำทุกสองถึงสามสัปดาห์ เพื่อตรวจเช็คสภาพ และระดับปริมาณน้ำมันเครื่อง นอกจากนี้การเลือกใช้น้ำมันเครื่องคุณภาพดี และรักษาระดับน้ำมันเครื่องให้อยู่ในปริมาณทีเหมาะสมจึงเป็นเรื่องสำคัญ รวมถึงการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะเวลาที่เหมาะสมคือ ทุกระยะ 10,000 กิโลเมตร หรือตรวจสอบได้จากคู่มือประจำรถ