เป็นภาพที่บีบหัวใจคนที่รักสัตว์ โดยเฉพาะบรรดาทาสแมวเป็นอย่างมาก เมื่อโลกอินเตอร์เน็ตมีการเผยแพร่ภาพแสนโหดร้ายของคาเฟ่แมวแห่งหนึ่งที่อยู่ย่านวัชรพล โดยเป็นภาพของบรรดาน้องแมวที่ถูกทารุณกรรม ถูกขังไว้กว่า 50 ตัวในสภาพที่ถูกทิ้งให้อยู่ในสภาพแวดล้อมสกปรก ทั้งยังมีการระบุว่า คาเฟ่ดังกล่าวเป็นของสัตวแพทย์คนหนึ่งใช้วิธีเพาะพันธุ์แมว สฟิงซ์จิ๋ว โดยนำยีนด้อยจากแมวตัวอื่นที่ต้องตายเพื่อผสมพันธุ์ดังกล่าว




โดยคุณทัฬอิญ ผู้หวังดี กล่าวผ่านคลิป เสร็จสิ้นภารกิจกู้ภัยเบื้องต้นครับ บางส่วนว่า
วันนี้ช่วยแมวออกมาได้ 35-40 ตัว..อาชีพที่น่าเชื่อถือทั้งหลาย ในวันนี้ไม่อาจจะการันตีได้ถึงความโปร่งใสโดยมีการนำแมวมาผสมแบบข้ามสายพันธุ์เพื่อให้เกิดสายพันธุ์ยีนส์ด้อยที่อ่อนแอมากๆ กระบวนการเหล่านั้น ต้องแลกด้วยชีวิตกว่าจะได้ 1 สายพันธุ์ที่ต้องการ ซึ่งอาจต้องแลกมาด้วยแมวกว่า 100 ชีวิต อีกทั้งสัตว์เลี้ยงเหล่านี้ถูกกักขังหน่วงเหนี่ยว ไม่มีโอกาสได้เห็นแสงเดือนแสงตะวัน จะถูกขังอยู่ในห้องมืดๆ เต็มไปด้วยสิ่งของ หน้าที่ของพวกเขาก็คือ ผสมพันธุ์ ปั๊มลูก เรียกว่าเป็นโรงปั๊มสัตว์เลี้ยง แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่า ในหนึ่งธุรกิจมีสิ่งเหล่านี้ซ่อนอยู่ข้างใน เป็นสิ่งที่ยังต้องหาคำตอบ ผมไม่ได้บอกว่าทุกที่ หรือ สถานที่นั้นไม่ดี แต่อาจจะต้องใช้เวลาศึกษาหรือใช้เวลาอยู่ด้วยกันจริงๆ กว่าจะรู้ว่ามันมีอะไรแอบแฝงอยู่
ขณะที่ Instagram ของ : มูลนิธิ The Voice (เสียงจากเรา) ได้โพสต์เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า

ใครฝากแมวที่นี่ไหมคะ Venice Cat Corner วัชรพล กรุงเทพ ไปรับลูกกลับด่วน!
คาเฟ่แมวที่ถูกปิดไปตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2562
ทารุณกรรมแมว โดยในคาเฟ่ มีแมวถูกขังอยู่กว่า50ตัว ตามคำบอกเล่าของอดีตลูกจ้าง… และมีแมวถูกแช่แข็งอยู่ในตู้แช่อีกเป็นจำนวนมาก!!!!!!!!!!
คุณทัฬอิญ ยังได้โพสต์ถึงเรื่องดังกล่าวด้วยว่า สังคมไทยยังมีเรื่องโหดร้ายในมุมมืดอีกมาก ซึ่งตนเป็นเพียงอาสาสมัครและย้ำว่า ไม่หวังผลประโยชน์ใดๆ จากกรณีที่เกิดขึ้น
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเคสช่วยแมวในวันนี้ครับ
แมวเหล่านี้เป็นของกลาง ไม่สามารถนำออกมาแจกจ่ายได้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของทางกฏหมาย… คือคุณยุ้ย - เจ้าหนี้ที่ดำเนินคดีให้สัตวแพทย์ท่านนั้นติดคุกครับ
หน้าที่ผมคืออาสาสมัครที่้เข้ามาดูแลรักษาแมวให้ด้วยทุนทรัพย์ตัวเอง ไม่หวังผลประโยชน์ใดๆ
มีกลุ่มสัตวแพทย์เสนอตัวเข้ามาดูแลหลายกลุ่มครับ และทางเราสรุปว่าต้องมารักษาในสถานที่กลางเพื่อความโปร่งใส หากตัวใดวิกฤติจึงจะยินยอมให้ไปรักษาในคลีนิกสัตวแพทย์ได้ภายใต้ข้อตกลงทางกฏหมายครับ
อย่่างที่ผมบอกครับ ทุกชีวิตมีคุณค่า ต้องให้ความเคารพอย่างเท่าเทียม จะปล่อยแบบไร้ระบบไม่ได้ ยิ่งเกี่ยวข้องทางคดีความ การนำออกไปโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ถือกรรมสิทธิ์ทางกฏหมายถือว่าลักขโมยหรือรับของโจร
ผมไม่ได้ทำเคสนี้เป็นเคสแรกครับ สังคมไทยยังมีเรื่องโหดร้ายในมุมมืดอีกเยอะ แค่เคสนี้มันเป็นที่สนใจเท่านั้น เพราะแมวมีราคา… และผู้ก่อคดีมีความน่าเชื่อถือในสังคม
ยังไงผมก็ยังช่วยสังคมต่อไปภายใต้ขอบเขตกฏหมาย อะไรที่ผมทำได้ก็จะใช้ความสามารถที่มีทำให้ดีที่สุดครับ

ขอบคุณภาพ คลิปวิดีโอและเนื้อหาจาก facebook ‘ทัฬอิญ เสรีรวมไทย บึงกุ่ม รามอินทรา’