ท่องเที่ยวไม่เหงา! เปิด 5 อันดับสายงานที่มีความต้องการแรงงานสูง งานขาย-ไกด์ มาวิน


จ๊อบไทย (JobThai) เผยความต้องการแรงงานของภาคธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรม ประจำเดือนมีนาคม 2562 จากฐานข้อมูลของจ๊อบไทย พบว่ามีความต้องการแรงงาน จำนวน 2,309 อัตรา โดยมีประเภทงานที่ต้องการแรงงานมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.งานขาย จำนวน 131 อัตรา ตามมาด้วย 2.งานล่าม/มัคคุเทศก์/จองห้อง/จองตั๋ว จำนวน 122 อัตรา 3.งานอาหาร-เครื่องดื่ม จำนวน 99 อัตรา 4.งานบัญชี จำนวน 65 อัตรา และ 5.งานช่างเทคนิค จำนวน 35 อัตรา

โดย จ๊อบไทย คาดการณ์ว่าความต้องการแรงงานของภาคธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรมยังคงมีอัตราการเติบโตต่อเนื่องด้วยปัจจัยบวกหลาย ๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นช่วงฤดูท่องเที่ยวของไทยอย่างเทศกาลสงกรานต์ ตลอดจนมาตรการของภาครัฐในการกระตุ้นการท่องเที่ยว ซึ่งปัจจัยทั้งหมดเหล่านี้ล้วนส่งผลดีต่อความต้องการแรงงาน

นางสาวแสงเดือน ตั้งธรรมสถิตย์ ผู้ร่วมก่อตั้งและหัวหน้าผู้บริหารด้านปฏิบัติการจ๊อบไทย (JobThai) กล่าวว่า อย่างที่ทราบกันดีว่าภาคการท่องเที่ยวถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญของไทย โดยเมื่อปี 2561 ที่ผ่านมาประเทศไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยวกว่า 2 ล้านล้านบาท และมีนักเที่ยวต่างชาติเดินทางมายังประเทศไทยกว่า 38 ล้านคน เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับจำนวนนักท่องเที่ยวในปี 2560 (ที่มา: สถิติด้านการท่องเที่ยว ปี 2561 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา) ดังนั้นเมื่อมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวประเทศไทยมากขึ้น ธุรกิจด้านการท่องเที่ยวและโรงแรมจึงมีความต้องการแรงงานที่เพิ่มขึ้น

ทั้งนี้จากการรวบรวมและวิเคราะห์ฐานข้อมูลงานที่อยู่ในธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรม ประจำเดือนมีนาคม 2562 พบว่ามีความต้องการแรงงานจำนวน 2,309 อัตรา โดยมีประเภทงานที่ต้องการแรงงานมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่

1. งานขาย มีจำนวนงานทั้งหมด 131 อัตรา สำหรับตำแหน่งที่เปิดรับมากที่สุด ได้แก่

– พนักงานขายแพ็คเกจทัวร์ท่องเที่ยว ทำหน้าที่ติดต่อลูกค้าเพื่อนำเสนอขาย รวมถึงจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ส่วนลด โฆษณาประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ เพื่อช่วยกระตุ้นการขาย คุณสมบัติของผู้สมัครที่ต้องการคือ สามารถใช้ Internet และ Social Media ได้ อาทิ Line, Facebook และสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษหรือภาษาที่ 3 ได้ เงินเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 15,000-35,000 บาท (ไม่รวมค่าคอมมิชชั่น)

2. งานล่าม / มัคคุเทศก์ / จองห้อง / จองตั๋ว มีจำนวนงานทั้งหมด 122 อัตรา สำหรับตำแหน่งที่เปิดรับมากที่สุด ได้แก่

– เจ้าหน้าที่จัดทัวร์ (Tour Operation) ทำหน้าที่จัดโปรแกรมการท่องเที่ยวตามวัตถุประสงค์ของลูกค้า รวมถึงติดต่อประสานงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ ที่พัก ร้านอาหาร เพื่อนำเสนอราคาให้แก่ลูกค้า คุณสมบัติของผู้สมัครที่ต้องการคือ ต้องสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษ หรือภาษาที่ 3 เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ยุโรป เงินเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 13,000-25,000 บาท (ไม่รวมค่าคอมมิชชั่น)

– เจ้าหน้าที่สำรองห้องพักและบัตรโดยสารเครื่องบิน (Reservation / Ticketing) ทำหน้าที่ติดต่อโรงแรมเพื่อสำรองห้องพัก คีย์ราคาและข้อมูลโรงแรมลงในระบบการขายออนไลน์ของบริษัท รวมถึงให้บริการสำรองบัตรโดยสารเครื่องบินทั้งในและต่างประเทศ คุณสมบัติของผู้สมัครที่ต้องการคือ มีความสามารถในการใช้โปรแกรมจองตั๋ว เช่น Seber (Amadeus), Abacus, Galileo และสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษ หรือภาษาที่ 3 ได้ เงินเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 15,000-24,000 บาท (ไม่รวมค่าคอมมิชชั่น)

3. งานอาหาร-เครื่องดื่ม มีจำนวนงานทั้งหมด 99 อัตรา สำหรับตำแหน่งที่เปิดรับมากที่สุด ได้แก่

– พนักงานเสิร์ฟ มีหน้าที่ให้บริการต้อนรับแขก บริการเสิร์ฟอาหาร และจัดเตรียมห้องอาหารให้พร้อมบริการแก่แขกที่จะมา คุณสมบัติของผู้สมัครที่ต้องการคือ มีใจรักการบริการ มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี สามารถทำงานเป็นกะ และสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ เงินเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 10,000 บาท (ไม่รวม Service Charge)

– พ่อครัว มีหน้าที่ประกอบอาหารตามเมนูร้านอาหาร เตรียมวัตถุดิบต่าง ๆ เช็คสต็อก และดูแลความเรียบร้อยภายในห้องครัว คุณสมบัติของผู้สมัครที่ต้องการคือ มีทักษะและความรู้ด้านการทำอาหาร บุคลิกภาพดี สื่อสารภาษาอังกฤษได้ดี และมีความคิดสร้างสรรค์ เงินเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 10,000 – 15,000 บาท

4. งานบัญชี มีจำนวนงานทั้งหมด 65 อัตรา สำหรับตำแหน่งที่เปิดรับมากที่สุด ได้แก่

– พนักงานบัญชี ทำหน้าที่ดูแลเอกสารการลงบัญชีรายรับ รายจ่าย ซื้อขายทั่วไป สรุปภาษีฯ ประจำเดือน ออกใบกำกับภาษี จัดทำใบวางบิลให้แก่ลูกค้า คุณสมบัติของผู้สมัครที่ต้องการคือ สามารถใช้โปรแกรมสำเร็จรูป อาทิ Winspeed, Star ACC, Senior Soft, Express และมีความรู้ด้านภาษีอากร กฎหมายแรงงาน เงินเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 12,000 – 35,000 บาท

5. งานช่างเทคนิค มีจำนวนงานทั้งหมด 35 อัตรา สำหรับตำแหน่งที่เปิดรับมากที่สุด ได้แก่

– ช่างไฟฟ้า ทำหน้าที่ดูแลเรื่องการเดินระบบไฟฟ้า และประเมินความปลอดภัยในการวางระบบไฟฟ้า คุณสมบัติของผู้สมัครที่ต้องการคือ มีความรู้ความสามารถในการใช้อุปกรณ์ควบคุมระบบ มีใบรับรองผ่านการอบรมที่เกี่ยวข้อง

– ช่างซ่อมบำรุง ทำหน้าที่ซ่อมบำรุงเครื่องจักร งานระบบไฟฟ้า ประปาของอาคาร สถานที่ รวมถึงให้บริการปรับปรุงแก้ไขสายไฟ หลอดไฟที่ชำรุด เป็นต้น คุณสมบัติของผู้สมัครที่ต้องการคือ มีความรู้ความสามารถเกี่ยวกับงานช่าง รู้วิธีการติดตั้ง บำรุงรักษาเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่าง ๆ เงินเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 11,000 – 15,000 บาท

อย่างไรก็ตาม คาดว่าความต้องการแรงงานของภาคธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรมยังคงมีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง ด้วยปัจจัยบวกหลาย ๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นฤดูท่องเที่ยวของไทยที่มีเทศกาลสงกรานต์ สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้อยากเดินทางมาท่องเที่ยว รวมถึงมาตรการภาครัฐในการกระตุ้นการท่องเที่ยว การออกแคมเปญการท่องเที่ยวทั่วไทย ท่องเที่ยวเมืองรอง เป็นต้น