เลี่ยงดื่มเหล้าช่วงอากาศร้อนจัด เสี่ยง ช็อกเสียชีวิตได้


ในช่วงฤดูร้อน อากาศที่ร้อนจะทำให้อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้น บางแห่งอุณหภูมิสูงเกิน 40 องศาเซลเซียส เกินอุณหภูมิปกติของร่างกายซึ่งอยู่ที่ระดับ 37 องศาเซลเซียสไปไกลแล้ว

สภาพอากาศเช่นนี้ อาจส่งผลให้หลายคนเจ็บป่วย เนื่องจากความร้อนทำให้หลอดเลือดขยายตัว จะมีผลต่อการหมุนเวียนของเลือดในร่างกาย เกิดการสูญเสียน้ำผ่านทางผิวหนังและต่อมเหงื่อมากขึ้น หากดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงกลางวันหรือช่วงอุณหภูมิสูง จะทำให้เกิดความเสี่ยงได้ เพราะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เมื่อดื่มแล้วจะทำให้เกิดความร้อนในร่างกายสูง ซึ่งหากทั้งภายนอกและภายในร่างกายอุณหภูมิสูงก็จะเสี่ยงทำให้เกิดอาการช็อกได้ และแอลกอฮอล์ยังทำให้หลอดเลือดที่ผิวหนังขยายตัว และเกิดการขับน้ำออกจากร่างกายเร็วขึ้น ปฏิกิริยาตอบสนองคือ เหงื่อออก ปัสสาวะบ่อย ซึ่งทำให้ร่างกายขาดน้ำโดยไม่รู้ตัว และทำให้เกิดอาการช็อกได้เช่นเดียวกัน จึงควรหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงอากาศร้อนเพราะทำให้เกิดอันตรายได้ง่ายกว่าเดิม

ทั้งนี้ ผู้ที่ต้องทำงานกลางแจ้งหรือออกกำลังกาย ควรดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อย 2 ลิตรต่อวัน ส่วนผู้ทำงานในที่ร่ม ควรดื่มอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว วิธีสังเกตว่าร่างกายได้รับน้ำเหมาะสมเพียงพอหรือไม่นั้น สังเกตง่ายๆ จากสีของน้ำปัสสาวะ หากมีสีเหลืองจางๆ แสดงว่าได้รับน้ำเพียงพอ แต่ถ้ามีสีเหลืองเข้มคล้ายน้ำชาและปัสสาวะออกน้อย แสดงว่าได้รับน้ำไม่เพียงพอจะต้องดื่มน้ำให้มากๆ

สำหรับเครื่องดื่มที่ไม่ควรดื่มในช่วงที่ร้อนอบอ้าว คือ เครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ผสมทุกชนิด เช่น เหล้า เบียร์ ไวน์ สาโทอุ กระแช่ น้ำตาลเมา ไม่ว่าจะดื่มโดยใส่น้ำแข็งหรือไม่ใส่ก็ตาม เนื่องจากฤทธิ์แอลกอฮอล์จะทำให้เส้นเลือดฝอยที่อยู่ใต้ผิวหนังขยายตัวมากขึ้น จะมีผลให้ร่างกายสูญเสียน้ำและเกลือแร่สูงขึ้น และแอลกอฮอล์จะถูกดูดซึมเข้ากระแสเลือดได้รวดเร็ว และออกฤทธิ์กระตุ้นหัวใจให้สูบฉีดเลือดเร็วและแรงขึ้นจะมีผลทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น หัวใจทำงานต้องหนักเพื่อสูบฉีดเลือด อาจทำให้ช็อกและเสียชีวิตได้ ยิ่งหากมีโรคประจำตัวอยู่แล้ว เช่น ความดันโลหิตสูง หัวใจ ยิ่งเสี่ยงมากขึ้นไปอีก อาจเกิดเส้นเลือดแตกเสียชีวิตหรือเป็นอัมพาตได้เช่นกัน

ข้อมูล: สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ