5 กลยุทธ์กระตุ้นความอยากซื้อแบบ “นานแค่ไหนก็จะซื้อ”


การที่ใครสักคนจะยอมต่อคิวหรือจองคิวซื้อสินค้าแต่ละประเภทในยุคนี้ถือเป็นเรื่องที่ยากมาก สาเหตุเพราะคนปัจจุบันชอบความรวดเร็ว คล่องตัวและสะดวกสบายเป็นหลัก

หากคุณต้องการให้ลูกค้ายอมรอโดยสมัครใจ จึงต้องใช้กลยุทธ์การนำเสนอเข้ามาช่วย กระตุ้นความอยากซื้อ อยากได้ แล้วจงตอกย้ำสิ่งเหล่านี้ ด้วยการโฆษณาประชาสัมพันธ์ ที่สำคัญผู้ประกอบการต้องใช้กลยุทธ์การสื่อสารการตลาด โดยสร้างทีมให้เกิดเป็น Brand Advocates หรือผู้ให้ความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าเห็นความสำคัญในจุดแข็งและความต่างของสินค้า

5 กลยุทธ์กระตุ้นความอยากซื้อ

1. สร้างแบรนด์มีคุณค่าและภาพลักษณ์แสนโดดเด่น

เพราะแบรนด์คือสิ่งที่แสดงถึงรสนิยมของผู้ซื้อ ดังนั้นการสร้างภาพลักษณ์ให้โดดเด่นน่าสนใจและชี้ให้กลุ่มเป้าหมายตระหนักถึง Value ที่เหนือกว่า จึงถือว่าเป็นใบเบิกทางสำคัญที่สุด

2. เสียงลือเสียงเล่าอ้าง สร้างค่านิยมจนกลายเป็นเทรนด์

สร้างสินค้ากลายเป็นค่านิยมหรือแฟชั่นซึ่งสามารถทำได้หลายวิธี เช่นการใช้ Influence ที่สามารถสร้างศรัทธาจากลูกค้าได้ มาเป็นตัวเล่าเรื่องจนเกิดเป็นกระแสนิยม แทนที่คุณจะบอกข้อดีด้วยตัวเอง

3. คุณภาพดี ราคาถูก ส่วนลด โปรโมชั่น สร้างแรงจูงใจ

ปริมาณคุ้มค่า วัตถุดิบชั้นดี คุณภาพเกินราคา หรือโปรโมชั่นต่างๆ ช่วยให้การตัดสินใจของลูกค้าง่ายขึ้น ใครบ้างล่ะ? ที่ไม่ชอบของดีแต่ยังคงมาตรฐาน (แนะนำว่าอย่าลดราคาเกินไปจนทำให้เสียแบรนด์ ลองมองหาสินค้าอื่นๆจาก Partner แล้วร่วมมือกันจัดทำแพคเกจหรือโปรโมชั่น)

4. สุดยอดบริการเป็นเลิศ ชวนให้หลงใหลจนเกิดแรงศรัทธา

การสร้างพนักงานให้มีประสิทธิภาพ ใส่ใจต่องานบริการ คือสิ่งสำคัญที่ช่วยผลักดันให้ลูกค้าเกิดความประทับใจ พร้อมเข้ามาซื้อหรือใช้บริการอย่างต่อเนื่อง การให้บริการเกินความคาดหวังนี้ ถือว่าเป็นกลยุทธ์สำคัญในการจูงใจผู้บริโภคและยังเป็นประตูแห่งการยกระดับแบรนด์ของคุณอีกด้วย

5. การพัฒนาและนวัตกรรมที่แปลกใหม่ ใจลูกค้าสั่งตัวเองว่าต้องลอง

ยุคนี้เป็นเรื่องราวของนวัตกรรมและความแปลกใหม่ ไม่ว่าคุณจะขายหรือให้บริการอะไรก็ตาม การสร้างความแตกต่างอย่างมีระดับให้กับสินค้าถือเป็นสิ่งคุ้มค่าต่อการลงทุนอย่างยิ่งสำหรับ SMEs ที่ต้องการพาธุรกิจก้าวสู่อนาคต

ทำครบ 5 ข้อนี้แล้วลองสังเกตความเปลี่ยนแปลงดูว่า แถวที่มาต่อรอซื้อสินค้าของคุณยาวขึ้นหรือยัง