กรมการค้าต่างประเทศแนะผู้ส่งออกใช้สิทธิ FTA เจาะตลาดเกาหลีใต้ หลังลดภาษีสินค้าภายใต้ FTA อาเซียน-เกาหลีแล้วกว่า 90% ของสินค้า 12,000 รายการ ภาษี 0%
นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ปัจจุบันเกาหลีได้ยกเลิกภาษีนำเข้าแก่สินค้าไทยกว่า 90% ของจำนวนรายการสินค้าทั้งหมดเกือบ 12,000 รายการ โดยเก็บภาษีในอัตรา 0% มีสินค้า ครอบคลุมสินค้าทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นสินค้าประมง (กุ้ง ปลาหมึกแช่เย็น แช่แข็ง ปรุงแต่ง) ผลไม้ (ฝรั่ง มะม่วง มังคุด) ยางธรรมชาติ ยางรถยนต์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ
ซึ่งผู้ผลิตและผู้ส่งออกไทยควรจะใช้โอกาสจากความได้เปรียบจากการที่สินค้าไทยได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้าขยายตลาดส่งออกสินค้าไปยังเกาหลีเพิ่มมากขึ้น
“แม้เกาหลีจะไม่ใช่ตลาดส่งออกหลักอันดับต้นๆ ของไทย เช่น อาเซียน จีน หรือสหรัฐฯ แต่ผู้ประกอบการไทยไม่ควรละเลยหรือมองข้ามตลาดเกาหลี เนื่องจากเกาหลีมีพื้นฐานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง มีเสถียรภาพและกำลังซื้อสูงและยังมีความต้องการนำเข้าสินค้าเกษตรแปรรูปและอาหารเพื่อการบริโภคสูง จึงเป็นโอกาสสำหรับผู้ส่งออกไทยที่จะขยายตลาดส่งออกเข้าสู่เกาหลีโดยใช้สิทธิพิเศษที่ได้รับภายใต้ FTA เพิ่มมากขึ้น” นายอดุลย์ กล่าว
ทั้งนี้ มูลค่าการส่งออกภายใต้ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-เกาหลี หรือ AKFTA ในปี 2561 มีมูลค่า 3,045.59 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 20.02% มีอัตราการใช้สิทธิประโยชน์อยู่ที่ 87.19% ของการได้รับสิทธิประโยชน์ทั้งหมด โดยสินค้าที่มีมูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ น้ำตาลจากอ้อย แผ่นไม้อัดพาร์ติเคิลบอร์ด น้ำมันปิโตรเลียม ยางธรรมชาติ และเครื่องปรับอากาศแบบติดผนัง ซึ่งการใช้สิทธิยังไม่เต็มจำนวนที่ได้รับ และบางสินค้ายังมีการใช้สิทธิน้อย

นายอดุลย์กล่าวว่า การขอรับสิทธิในการยกเว้นหรือลดหย่อนภาษีนำเข้าเมื่อส่งออกสินค้าไปเกาหลี ผู้ประกอบการจะต้องแสดงหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าภายใต้ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-เกาหลี หรือ Form AK ต่อศุลกากรเกาหลี เพื่อยืนยันว่าสินค้าส่งออกดังกล่าวมีคุณสมบัติถิ่นกำเนิดสินค้าไทยตามเงื่อนไขถิ่นกำเนิดสินค้าภายใต้ความตกลง AKFTA โดยสามารถขอรับหนังสือรับรอง Form AK ได้ที่กรมฯ
สำหรับสินค้าที่ถือว่าเข้าข่ายสินค้าที่มีคุณสมบัติถิ่นกำเนิดสินค้าไทย คือ สินค้าที่ผลิตขึ้นหรือได้มาทั้งหมดภายในประเทศไทย (WO) หรือสินค้าที่มีการแปรสภาพอย่างเพียงพอในประเทศไทย โดยหลักเกณฑ์ที่ใช้สำหรับพิจารณาว่าสินค้ามีการแปรสภาพอย่างเพียงพอในประเทศไทยหรือไม่นั้น ประกอบด้วย
1.มีสัดส่วนวัตถุดิบภายในภูมิภาคไม่น้อยกว่า 40% ของมูลค่าราคา FOB
2.กระบวนการผลิตที่เกิดขึ้นในประเทศส่งผลให้วัตถุดิบนำเข้าเกิดการเปลี่ยนพิกัดศุลกากรในระดับ 4 หลัก
ทั้งนี้ หากรายการสินค้าใดปรากฏในตารางกฎถิ่นกำเนิดเฉพาะรายสินค้า สินค้านั้นจะถือว่ามีการแปรสภาพอย่างเพียงพอในประเทศไทยก็ต่อเมื่อสินค้านั้นเป็นไปตามเงื่อนไขที่ระบุไว้เป็นการเฉพาะในแต่ละรายการสินค้า
หากผู้ประกอบการรายใดมีความสนใจที่จะส่งออกหรือประสงค์จะขอรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีศุลกากรภายใต้ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-เกาหลี สามารถสอบถามรายละเอียด หรือขอรับคำปรึกษาเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ เงื่อนไขหลักเกณฑ์ และขั้นตอนในการขอรับหนังสือรับรองฯ Form AKFTA ได้ที่สายด่วนกรมการค้าต่างประเทศโทร. 1385 หรือที่กองสิทธิประโยชน์ทางการค้า กรมการค้าต่างประเทศ โทรศัพท์ 0-2547-4819 หรือเว็บไซต์กรมการค้าต่างประเทศ