คนไทยเจ๋ง! “อดีตคนขับแท็กซี่ สู่ SME ผู้สร้างบริษัทเครื่องตรวจชิ้นส่วนยานยนต์ จนชนะใจค่ายรถทั่วโลก


ทราบหรือไม่ว่า ในรถยนต์หนึ่งคัน ต้องประกอบด้วยชิ้นส่วนอุปกรณ์นับหมื่นๆ ชิ้น ซึ่งทั้งหมดจะต้องผ่านการตรวจวัดคุณภาพอย่างละเอียดถี่ถ้วน ด้วยเหตุนี้จึงมีความจำเป็นต้องมีธุรกิจที่รับหน้าที่เป็น “ตัวกลาง” มาทำหน้าที่ผลิตเครื่องมืออุปกรณ์สำหรับตรวจวัดอุปกรณ์แต่ละชิ้นโดยเฉพาะ 

 

 

หนึ่งในผู้ประกอบการที่ปัจจุบันอยู่แถวหน้าของวงการผลิตชุดเครื่องมือตรวจสอบชิ้นส่วนยานยนต์ ได้รับความไว้วางใจจากค่ายรถต่างๆ ที่ขายในเมืองไทย คือ ผู้ผลิตสายเลือดไทยแท้ๆ ในนาม “โอบอ้อม เกจ เทคโนโลยี” ที่น่าทึ่งกว่านั้นคือ เจ้าของธุรกิจอย่าง “ไพรัช โอบอ้อม” อดีต เคยประกอบอาชีพขับแท็กซี่มาก่อน กว่าจะก้าวมาสู่เวทีการทำธุรกิจจนประสบความสำเร็จ เขามีที่มาที่ไปอย่างไร เราไปถอดแผนธุรกิจจาก SME รายนี้กันดีกว่า

 

 

“ผมเป็นคนรักอิสระ ที่มาทำธุรกิจนี้ได้ต้องบอกว่าเพราะคุณพ่อผม ท่านเป็นต้นแบบ” ไพรัช เริ่มต้นเล่าอย่างอารมณ์ดี

 

 

“ผมเรียนจบ ปวส.ด้านช่างยนต์ แต่ด้วยความที่เราไม่ชอบทำงานประจำ หลังจากเรียนจบก็ไปทำรับเหมาก่อสร้างอยู่หลายปี แต่ก็ยังไม่ใช่ทางที่ใช่ จึงตัดสินใจไปขับแท็กซี่ ทำอยู่กว่า 2 ปี ก็ถือว่าพออยู่ได้ มีความสุขดี แต่เหตุการณ์มันมาถึงจุดเปลี่ยนตรงที่ คุณพ่อผมบังคับให้ไปทำงานบริษัท ซึ่งเกี่ยวกับผลิตอุปกรณ์ตรวจวัดชิ้นส่วนยานยนต์แห่งหนึ่ง ผมเลยไปทำงานประจำเพราะเหตุการณ์และสถานการณ์บังคับ”

 

 

นับเป็นจุดเปลี่ยนชีวิตอย่างแท้จริง ไพรัช ใช้เวลา 5 ปี บ่มเพาะความรู้ จากพนักงานเดือนเงิน 6,500 บาท ที่ไม่มีความรู้ในสายงานนี้เลย แต่อาศัยความมุ่งมั่น ตั้งใจ จนได้รับโอกาสขยับขึ้นแท่นเป็นหัวหน้าช่าง ตลอดจนได้เรียนรู้กระบวนการในธุรกิจผลิตอุปกรณ์ตรวจวัดชิ้นส่วนยานยนต์อย่างรอบด้าน

 

 

และเมื่อมีความพร้อม ประกอบกับมองเห็นโอกาสจากช่องว่างทางธุรกิจที่เชื่อว่ายังเติบโตได้อีกมาก ตามการขยายตัวของอุตสาหกรรมรถยนต์ในเมืองไทย ตลอดจนประสบการณ์ที่ได้รับเป็นความรู้เฉพาะทาง รวมทั้งในเวลานั้นเมื่อ 7 ปีที่แล้ว ผู้ผลิตในตลาดมีจำนวนไม่มาก จึงตัดสินใจลาออกจากงานประจำ เพื่อมาบุกเบิกบริษัทผลิตอุปกรณ์ตรวจวัดชิ้นส่วนยานยนต์ของตัวเอง ในนาม บริษัท โอบอ้อม เกจ เทคโนโลยี จำกัด

 

 

ไพรัช เล่าถึงจุดเปลี่ยนว่า “ผมนำนามสกุลตัวเองคือ “โอบอ้อม” มาตั้งเป็นชื่อบริษัท เพราะอยากจะสื่อว่า นี่เป็นบริษัทของคนไทย อยากให้ทุกคนมีเชื่อมั่นว่า คนไทยมีศักยภาพไม่แพ้บริษัทต่างชาติ แต่กว่าจะสำเร็จ ก็ใช้เวลาลองผิดลองถูกอยู่เป็นปี วิ่งไปเสนองานค่ายรถยนต์ต่างๆ จนในที่สุดมีค่ายรถแห่งหนึ่ง ให้โอกาส และเมื่อเราทำงานออกมาได้ดี มีความรับผิดชอบ ตรงต่อเวลา ทำให้มีงานเข้ามาต่อเนื่อง จนปัจจุบัน เราได้งานตรวจชิ้นส่วนอุปกรณ์รถ จากทุกค่ายรถที่ขายในเมืองไทย ไม่ว่าจะญี่ปุ่น หรือยุโรป”

ไพรัช ขยายความถึงกระบวนการในธุรกิจนี้ว่า รูปแบบของธุรกิจจะเริ่มต้นด้วยบริษัทรถ มีความต้องการให้ตรวจสอบส่วนอุปกรณ์ตัวใด จะเข้าไปนำเสนองาน จากนั้นจึงออกแบบตัวอย่างเครื่องมือตรวจวัดชิ้นส่วนนั้นๆ แล้วนำเสนอบริษัทรถ หากได้รับการพิจารณา จึงผลิตจริง โดยมีราคาตั้งแต่หลักแสนจนถึงหลักล้านบาท ซึ่งในความเป็นจริงๆ ต้องแข่งขันกับบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์รายอื่นๆ ทั่วไทย และต่างประเทศ

สิ่งสำคัญที่ส่งให้ “โอบอ้อม เกจ เทคโนโลยี” เอาชนะใจค่ายรถต่างๆ และธุรกิจเติบโตเรื่อยมา เจ้าของธุรกิจ ระบุว่า มาจากคุณภาพของอุปกรณ์ได้มาตรฐานการันตี มีบริการหลังการขายยอดเยี่ยม สามารถเรียกใช้ได้ตลอดเวลาหากอุปกรณ์เกิดปัญหา คิดราคาเหมาะสม และเหนืออื่นใด คือ ความตรงต่อเวลา ส่งมอบงานได้ทันกำหนด ซึ่งค่ายรถให้ความสำคัญและเคร่งครัดอย่างยิ่ง เนื่องจากเกี่ยวเนื่องกับกำหนดเวลาในการวางแผนตลาด เพื่อจะส่งรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ออกสู่ตลาด

นอกจากจะผลิตชุดเครื่องมือตรวจวัดชิ้นส่วนยานยนต์แล้ว ยังต่อยอดผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ต่างๆ รวมถึง มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพนวัตกรรม โดยลงทุนสั่งซื้อเครื่องจักรเพื่อยกระดับการผลิต ซึ่งได้รับการสนับสนุนสินเชื่อกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ จากกระทรวงอุตสาหกรรม ผ่านธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank ที่มีส่วนช่วยให้ธุรกิจสามารถเติบโตและก้าวทันเทคโนโลยีสมัยใหม่ได้เสมอ

 

 

“หลังทำธุรกิจมาได้ประมาณ 5 ปี ผมสร้างโรงงานแห่งใหม่ พื้นที่ 1 ไร่ รวมถึง ลงทุนซื้อเครื่องจักร เพื่อยกระดับการผลิตอุปกรณ์ให้ทันสมัย ผมได้รับข่าวสารว่า SME D Bank มีบริการสินเชื่อดอกเบี้ยถูก เลยติดต่อไป ไม่นาน ก็ได้รับอนุมัติ ซึ่งบริการของ SME D Bank นอกจากด้านเงินทุนแล้ว ยังเป็นที่ปรึกษาในเรื่องของการทำธุรกิจ ช่วยให้เอสเอ็มอีตัวเล็กๆ สามารถโตได้ไว ที่สำคัญคือดอกเบี้ยที่ถูก ทำให้เพิ่มโอกาสให้ธุรกิจเอสเอ็มอีในเรื่องการขยายธุรกิจ” 

 

ระยะเวลาเพียง 7 ปีนับจากเริ่มสร้างธุรกิจของตัวเอง วันนี้ “โอบอ้อม เกจ เทคโนโลยี” สามารถปักธงสำเร็จในฐานะหนึ่งในผู้ประกอบการหัวแถวของวงการ และด้วยแนวคิดพัฒนาตัวเองเสมอ เชื่อแน่ว่า ยังมีหนทางให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้อีกมากในอนาคต

SME : โอบอ้อม เกจ เทคโนโลยี

โทร. 0-2593-1389

ที่ตั้ง 1/2 หมู่ 3 ต.กระแชง อ.สามโคก จ.ปทุมธานี