รู้จัก “ฉลากเขียว” เครื่องหมายช่วยสะท้อนความยั่งยืนของแบรนด์ต่อสิ่งแวดล้อม
ฉลากเขียวของประเทศไทย ริเริ่มขึ้นโดยองค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Thailand Business Council for Sustainable Development, TBCSD)
ศูนย์การค้าเมกาบางนา โดย บริษัท เอสเอฟ ดีเวลอปเมนท์ จำกัด ตอกย้ำความเป็นสุดยอดแหล่งช้อปปิ้งและสถานที่พบปะสังสรรค์แห่งย่านกรุงเทพตะวันออก ลงทุนกว่า 100 ล้านบาท มุ่งปรับกลยุทธ์ “ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น” ปรับโฉมสู่ช่องทางดิจิทัลครบทุกแพลตฟอร์ม ตอบโจทย์พฤติกรรมของลูกค้าที่มีการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในทุกๆ Customer Experience
นางสาวสิรินฉัตร แสงศรี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ศูนย์การค้าเมกาบางนา เปิดเผยว่า “ในปีนี้ ศูนย์การค้าเมกาบางนาเปิดให้บริการมาครบรอบ 7 ปี โดยเราให้ความสำคัญกับการสร้าง Customer Experience ที่สามารถเติมเต็มความสุข สร้างความประทับใจในทุกๆ ครั้ง ที่มาใช้บริการที่เมกาบางนา มาโดยตลอด
และด้วยพฤติกรรมของลูกค้าในปัจจุบันที่ดิจิทัลเทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตแทบตลอดเวลา จากข้อมูลการตลาดพบว่า คนไทยโดยเฉลี่ยแล้ว ใช้อินเทอร์เน็ตมากกว่า 9 ชั่วโมง ต่อวัน (นับรวมทุกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์) และส่วนใหญ่ใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านสมาร์ทโฟนถึง 71% โดยมากกว่า 80% ใช้งานสมาร์ทโฟนเพื่อดูรายการบันเทิงและหาข้อมูลต่างๆ และมากกว่า 59% นั้นช้อปปิ้งผ่านทางมือถือ ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้ส่วนใหญ่ทำผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ ดังนั้น เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าได้ครบทุกไลฟ์สไตล์ ศูนย์การค้าเมกาบางนาจึงปล่อยตัว เมกาบางนา แอปพลิเคชัน โดยต้องการจะให้ลูกค้าของศูนย์ได้รับประสบการณ์การช้อปปิ้งได้มากกว่า สนุกกว่า และคุ้มค่ามากกว่าเดิม”
โดยในปีนี้ทางเมกาบางนา ได้ทุ่มงบการตลาดมากกว่า 100 ล้านบาท ในการเดินหน้ากลยุทธ์ “ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น” พัฒนาช่องทางดิจิทัลครบทุกแพลตฟอร์มตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐาน Marketing Technology Ecosystem และนำเอา Marketing Technology Tools ต่างๆ มาใช้ ตั้งแต่การโฆษณาไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย สร้าง Engagement Platform ผ่านทาง Social Media Marketing Platform นำเอาระบบ Marketing Automation มาใช้เพิ่มศักยภาพในการสื่อสารกับลูกค้า รวมถึงพัฒนาเว็บไซต์ให้ตอบสนองต่อการค้นหาข้อมูลของลูกค้าและเชื่อมโยงลูกค้าให้กับร้านค้าและกิจกรรมการตลาดต่างๆของร้านค้าภายในศูนย์การค้าได้สะดวกขึ้น
นางสาวสิรินฉัตร กล่าวอีกว่า อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่สำคัญคือการพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการฐานข้อมูลของลูกค้า (Data Management) ให้มีศักยภาพเพื่อนำเอาข้อมูลประเภทต่างๆ มาวิเคราะห์และสร้างกลยุทธ์การตลาดของศูนย์ฯ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ในทุกแง่มุมและสร้าง Personalized Offer ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าที่แท้จริง โดยตั้งใจจะสร้างศูนย์การค้าเมกาบางนา ให้เป็น มีทติ้งเพลส ที่สมบูรณ์แบบ เป็นที่ที่สามารถมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งที่น่าประทับใจ สามารถตอบโจทย์ของลูกค้าได้ทั้งออนไลฟ์และออนไลน์”
สำหรับเฟสต่อไปในอนาคตอันใกล้ นอกเหนือจากโปรแกรม “เมกา สไมล์ รีวอร์ดส” ที่เป็นฟีเจอร์ไฮไลท์ของเมกาบางนาแอปพลิเคชันแล้ว เมกาบางนายังแตรียมเพิ่มฟีเจอร์ที่เป็นประโยชน์และช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าอีกมากมาย เพื่อยกระดับประสบการณ์การช้อปปิ้งของลูกค้าได้อย่างเต็มที่ อาทิ การค้นหาร้านค้า แผนที่ร้านค้า แชท และ บริการรับจอดรถยนต์ (Valet parking) เป็นต้น โดยลูกค้าสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเมกาบางนา ผ่านทาง App Store และ Play Store ทั้งนี้ ตั้งเป้ามีลูกค้าลงทะเบียนแอปพลิเคชันเพิ่มขึ้น 50% ภายในปี 2564