อย่าไปท้อแท้ในชีวิต ถึงตาเราจะมองไม่เห็น แต่ใจเราก็มองเห็น เราต้องมองอนาคตของเรา เราต้องทำ ต้องช่วยเหลือตัวเองให้ได้: ลัดดาภรณ์ โกสุม
รายการ The stronger ฅนหัวใจแกร่ง ครั้งนี้ พาไปที่บ้านไทจาน ตำบลค้อใหญ่ อำเภอกู่แก้ว จังหวัดอุดรธานี เพื่อพบกับคุณลัดดาภรณ์ โกสุม เจ้าของรางวัลสุดยอดคนพิการต้นแบบ ประจำปี 2561 ที่แม้ตาจะมืดบอดทั้ง 2 ข้าง แต่ไม่ย่อท้อ มุ่งมันสร้างความดีงามให้คนรัก พร้อมแบ่งปันโอกาสให้ผู้พิการคนอื่นๆ
คุณลัดดาภรณ์ เล่าว่า ความพิการทางการมองเห็นนี้ เกิดขึ้นมาตั้งแต่วัยเด็ก ประมาณ 4-5 ขวบ เนื่องจากเป็นไข้และผื่นเข้าตา แต่ไม่ได้ไปรักษาเพราะสมัยนั้นโรงพยาบาลอยู่ไกลมาก บวกกับความลำบากในการคมนาคม จึงรักษากับหมอพื้นบ้าน ซึ่งก็ไม่หาย ช่วงแรกตาข้างซ้ายยังพอมองเห็น แต่ไปก่อไฟเพื่อหุงข้าว แล้วสะเก็ดไฟเข้าตา เลยทำให้ตาบอดทั้ง 2 ข้างมาจนทุกวันนี้
หลังจากตาบอดสนิท คุณแม่เสียร้องไห้หนักมาก จนคิดอยากตาย แต่แม่ก็คอยปลอบคอยเป็นกำลังใจให้ รวมถึงพี่ๆเพื่อนๆก็คอยบอกว่าจะไปร้องทำไม ไม่ใครก็ไม่ทิ้งหรอก จึงลุกขึ้นมาสู้ต่อ และพยายามช่วยเหลือตัวเองเรื่อยมา จนได้พบกับสามี ซึ่งนับว่าโชคดีมาก เพราะอยากได้อะไรอยากไปไหนเขาก็พาไป ส่วนเวลาที่เขาไปไหนมาไหน ก็เอาไปด้วย ก็พาไปด้วย หลังจากคุณแม่จากไป ก็มีท้อกับชีวิตบ้างเป็นบางวัน แต่ก็ต้องให้กำลังใจตัวเอง เพราะมีลูก ถ้าเราเป็นอะไรไปแล้วลูกจะอยู่ยังไง
ช่วงที่ได้รับการฝึกอาชีพนวดแผนไทย เริ่มต้นจากการชักชวนของนายกสมาคมคนตาบอด จังหวัดอุดรธานี เขาบอกว่าคนพิการอย่างเราไม่ต้องไปขอทาน เราต้องช่วยเหลือตัวเองได้ ถ้าเรานวดเป็น ก็จะมีรายได้วัน 100-200 ทำให้เราอยู่ได้ จนกลายมาเป็นอาชีพที่ใช้ทำมาหากินในปัจจุบัน ซึ่งทำมากว่า 5 ปีแล้ว โดยคิดค่าให้บริการที่ชั่วโมงละ 120 บาท ส่วนใหญ่ลูกค้าจะมาหาที่บ้าน หรือถ้าเขาอยากให้ไปนวดนอกสถานที่ ถ้ามีรถมารับ ก็ไปได้ แต่ก็ต้องโทรมาบอกก่อน เพราะบางต้องออกไปทำงานกับกลุ่มเกษตรทำเห็ด
นอกจากนั้นก็ยังมีอาชีพ คือการทอเสื่อกก ที่ได้เรียนรู้จากคุณแม่ตั้งแต่ตอนเป็นเด็ก ในหนึ่งวันสามารถทอได้กว่า 2 ผืน ราคาขายผืนละ 80 – 500 บาท แล้วแต่ความยากง่ายของงาน ช่วยสร้างรายได้เดือนละประมาณ 5,000 บาท โดยทางสมาคมคนตาบอดก็ให้นำความรู้นี้ ไปถ่ายทอดให้ผู้พิการคนอื่นๆ ซึ่งสอนเสร็จไป 1 รุ่นแล้ว
ส่วนการเพาะเห็ดนั้น ทางสมาคมได้ให้ไปฝึกที่ศูนย์ป่ารักษ์น้ำ จังหวัดหนองบัวลำภู เพื่อเป็นการฝึกอาชีพ และนำมาถ่ายทอดให้ผู้พิการคนอื่นๆ เธอจึงได้นำความรู้นี้มาประยุกต์ทำโรงเพาะเห็ดนางฟ้าในบริเวณบ้าน
สำหรับรางวัลสุดยอดคนพิการต้นแบบประจำปี 2561 มองว่าน่าจะมาจากการร่วมทำโครงการต่างๆ โดยเฉพาะโครงการเกษตร ซึ่งหลังจากประสบผลสำเร็จแล้ว ก็ได้แบ่งปันความรู้ให้ผู้พิการคนอื่นๆ
ด้านการเข้าถึงสิทธิ และสวัสดิการของภาครัฐ ปัจจุบันได้เงินเดือนละ 800 บาท รักษาพยาบาลฟรี ซึ่งดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก อนาคตจะมุ่งช่วยเหลือคนพิการให้ในชุมชนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นต่อไป เพราะอยากให้เขาช่วยเหลือตัวเองได้ แต่คนตาบอดบางคนเขาไม่กล้าที่จะออกมาทำอย่างเรา ก็บอกเขาว่า เราก็เป็นคนพิการ แล้วเราจะนั่งรอเขาทำให้กิน ถ้าไม่มีคนทำ เราจะได้กินไหม เขาก็บอกจะทำได้ยังไง มองก็ไม่เห็น เราเองก็มองไม่เห็น แล้วใจเราล่ะเห็นไหม แล้วมือเราทำได้ไหม
อยากฝากทุกคนว่า อย่าไปท้อแท้ในชีวิต ถึงตาเราจะมองไม่เห็น แต่ใจเราก็มองเห็น เราต้องมองอนาคตของเรา เราต้องทำ ต้องช่วยเหลือตัวเองให้ได้ ถ้าไม่มีใครช่วยเรา เราต้องช่วยตัวเองให้ได้ อย่าท้อแท้นะคะทุกคน