เตรียมชงเก็บภาษีนักท่องเที่ยวต่างชาติ ตั้งกองทุนปรับปรุงแหล่งท่องเที่ยว


นายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า หลังจากพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2562 เพิ่งลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา มีการกำหนดให้รัฐสามารถจัดเก็บเงินค่าประกันภัยและประกันชีวิตจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาในไทยได้ โดยมีกำหนดเริ่มจัดเก็บภายใน 6 เดือนนับจากนี้ ส่วนจะจัดเก็บในอัตราเท่าไรนั้น ยังต้องรอผลการศึกษาและหารือกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในอีกหลายเวที และกระทรวงการท่องเที่ยวฯจะว่าจ้างให้มหาวิทยาลัยนเรศวรศึกษาเกี่ยวกับการจัดเก็บค่าประกันภัยและค่าธรรมเนียมในลักษณะใกล้เคียงจากนักท่องเที่ยวต่างชาติของประเทศต่างๆว่าเป็นอย่างไร เช่น ประเทศญี่ปุ่นที่มีการจัดเก็บภาษีผู้โดยสารขาออกนอกประเทศ (ซาโยนาระ แท็กซ์) ทั้งทางอากาศและทางเรือคนละ 1,000 เยน (ราว 300 บาท) จากทั้งชาวญี่ปุ่นและต่างชาติ รวมถึงไทยควรจัดเก็บในอัตราที่เหมาะสมเท่าไร เก็บขาเข้าหรือขาออกประเทศ

ทั้งนี้จะเน้นเก็บตามความจำเป็นและกระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวน้อยที่สุด โดยประมาณการเบื้องต้นว่า หากจัดเก็บคนละ 100 บาท รัฐจะจัดเก็บค่าประกันภัยรวมได้ราว 3,800 ล้านบาท อ้างอิงจากฐานนักท่องเที่ยวต่างชาติ 38 ล้านคนต่อปี โดยวัตถุประสงค์จะนำเงินส่วนนี้ไปตั้งกองทุนเพื่อซื้อกรมธรรม์ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ และใช้พัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว”

หากมีการเก็บภาษีจากท่องเที่ยวขึ้นจริง ซึ่งปัจจุบันไทยมีการเติบโตด้านนักท่องเที่ยวที่รวดเร็วและมีจำนวนสูงมาก ทำให้มองว่านี่คือช่วงเวลาที่เหมาะสมแล้ว ทั้งนี้ ต้องวางระบบการบริหารจัดการงบประมาณในการยกระดับทุก ๆ เรื่อง รวมถึงการให้บริการนักท่องเที่ยวที่ดีขึ้นด้วย ส่วนอีกประเด็นที่ต้องการให้เกิดขึ้นจริง คือ ควรจัดเก็บประกันภัยนักท่องเที่ยวไปด้วยเลย เพราะไม่ควรเป็นภาระของภาษีไทยในการดูแลนักท่องเที่ยวต่างชาติ เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาเมื่อเกิดอุบัติเหตุหรือเสียชีวิต ต้องใช้งบประมาณมาดูแล ซึ่งมองว่าไม่ใช่หน้าที่ของผู้เสียภาษีไทยที่ต้องมาร่วมรับภาระดูแลนักท่องเที่ยวในส่วนนี้