“คอร์รัปชัน” ขวากหนามสำคัญที่ฉุดเศรษฐกิจไทยไม่ไปไหนสักที


ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) เผยสถานการณ์คอร์รัปชั่นประเทศไทยในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาปรับแย่ลง ซึ่งปัญหาคอร์รัปชั่นหากประเทศใดมีมากก็ย่อมส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งจะมีผลเสียด้านใดบ้างนั้นมาดูกัน

การคอร์รัปชันส่งผลต่อเศรษฐกิจอย่างไร?

ปัญหาคอร์รัปชันเป็นปัญหาสำคัญข้อหนึ่งในการพัฒนาไปสู่ประเทศที่มีรายได้สูง รวมถึงประเทศไทย ซึ่งศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ มองว่าปัญหาคอร์รัปชันส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจด้วยกัน 3 ทาง ดังต่อไปนี้

  • การคอร์รัปชันทำให้รายได้ของภาครัฐน้อยลง โดยส่วนหนึ่งมาจากการติดสินบนเพื่อหลีกเลี่ยงภาษี ซึ่งตรงนี้จะทำให้รายได้ของภาครัฐลดลง เก็บภาษีได้น้อย และทำให้ประชาชนไม่มีแรงจูงใจในการจ่ายภาษี สอดคล้องกับการศึกษาของ IMF ที่ระบุว่าประเทศที่มีการคอร์รัปชันต่ำจะทำให้ภาครัฐสามารถจัดเก็บรายได้สูงกว่าประเทศที่มีคอร์รัปชันมากเฉลี่ย 2.8-4.5% ดังนั้น จึงสรุปได้ว่า หากมีการคอร์รัปชันมากจะส่งผลต่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และสวัสดิการของประชาชนในประเทศ จนนำมาสู่ความเหลื่อมล้ำในที่สุด
  • การคอร์รัปชันลดประสิทธิภาพการใช้จ่ายของภาครัฐฯ โดย IMF วิเคราะห์ว่า ประเทศที่มีการคอร์รัปชันสูงมักจะมีค่าใช้จ่ายของภาครัฐต่อหนึ่งโครงการสูง ซึ่งโครงการที่มีความเสี่ยงที่จะถูกติดสินบนมากที่สุด คือโครงสร้างพื้นฐาน การขนส่ง และพลังงาน จากการดำเนินงานของภาครัฐที่ไม่มีประสิทธิภาพยังทำให้คุณภาพของการศึกษาลดลง ดูได้จากผลสอบ PISA ในปี 2015 ที่ประเทศไทยอยู่อันดับ 55 จาก 72 ประเทศ
  • การคอร์รัปชันเป็นอุปสรรคต่อภาคธุรกิจ การลงทุน เพราะก่อให้เกิดความผูกขาด ขอแค่มีคอเนคชั่นก็เพียงพอแล้ว และเป็นการกีดกันผู้เล่นหน้าใหม่ให้เข้ามาแข่งขันในตลาด ส่งผลให้ภาคเอกชนไม่มีแรงจูงใจที่จะผลิตนวัตกรรมใหม่ๆ สอดคล้องกับผลสำรวจของ World Economic Forum พบว่า ปัญหาคอร์รัปชันเป็น 1 ใน 5 อุปสรรคสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจในกลุ่มประเทศ ASEAN รวมถึงไทย ทำให้ต้นทุนในการดำเนินธุรกิจสูงขึ้นและบั่นทอนความเชื่อมั่นในการลงทุน นอกจากนี้ OECD ยังพบอีกว่า คอร์รัปชันทำให้การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ลดลงอย่างมีนัยสำคัญด้วย

ที่มา: SCB EIC