รวมสินค้าไทยขายดีในอินเดีย และเว็บไซต์ยอดฮิต


ปัจจุบันอินเดียมีขนาดเศรษฐกิจเป็นอันดับ 9 ของโลก และเป็นอันดับ 3 ของเอเชีย รองจากจีนและญี่ปุ่น ซึ่ง World Bank คาดว่า อินเดียจะกลายเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก ภายในปี 63 ทำให้อินเดียเป็นประเทศนักลงทุนสนใจ เนื่องจากมีการเติบโตของชนชั้นกลาง และรายได้ที่เพิ่มขึ้น

ขณะเดียวกัน อินเดียยังเติบโตทางด้านธุรกิจอีคอมเมิร์ชอย่างรวดเร็ว โดยปี 60 อินเดียมีรายได้จากอีคอมเมิร์ชกว่า 38.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ และคาดว่าจะเติบโตเป็น 200 พันล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 69 การเติบโตของตลาดอีคอมเมิร์ช เพิ่มขึ้นตามจำนวนการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตและสมาร์ทโฟนของคนปัจจุบัน และคาดว่าจากการใช้งานอินเทอร์เน็ตจาก 560.01 ล้านคน (สถิติ ก.ย. 61) จะเพิ่มเป็น 829 ล้านคนภายในปี 64 จาก หรือเติบโต 51% ต่อปี ซึ่งเป็นอัตราที่สูงที่สุดในโลก

จึงเป็นโอกาสที่นักลงทุนไทยจะเข้ามาลงทุนกับธุรกิจออนไลน์ในประเทศอินเดีย เพราะสินค้าไทยบางชนิดก็ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคอินเดียไม่น้อย เช่น

  • วัตถุดิบในการปรุงอาหาร เครื่องปรุงรส
  • เสื้อผ้าแฟชั่น
  • สมุนไพรที่มีกลิ่นหอม
  • เครื่องประดับดีไซน์ทันสมัย รวมถึงเครื่องประดับแท้
  • กลุ่มธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ และกลุ่มธุรกิจยางพารา เนื่องจากชาวอินเดียนิยมนำไปเป็นส่วนประกอบของเฟอร์นิเจอร์
  • บริการรับจัดงานแต่งงานออนไลน์ บริการขายทัวร์ออนไลน์ เนื่องจากชาวอินเดียนิยมมาเที่ยวไทยสูงขึ้น

นอกจากนั้น การนำสินค้าเข้าไปขายเว็บไซต์ยอดนิยมของอินเดีย ก็เป็นอีกช่องทางสำคัญ โดยคนอินเดีย นิยมสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ ผ่านทางเว็บไซต์ต่างๆ ดังนี้

อันดับ 1. Amazon

บริษัทอีคอมเมิร์ชใหญ่ที่สุดในอินเดียในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ด้วยจุดเด่นที่มีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ตั้งแต่เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องแต่งกายทั้งหญิงและชาย ของใช้ในบ้าน ของใช้ของเด็ก อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ไปจนถึงหนังสือ ภาพยนตร์ รายการทีวี ทั้งยังให้ความสำคัญกับการจัดส่งในหนึ่งวัน พร้อมการันตีคุณภาพสินค้าแบบไม่มีชำรุด เสียหาย

อันดับ 2. Flipkart

บริษัทอีคอมเมิร์ชสัญชาติอินเดีย เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในกลุ่มอุปกรณ์เสริมสำหรับเล่นเกมโทรศัพท์มือถืออุปกรณ์โทรศัพท์มือถือกล้อง อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ส่วนประกอบของซอฟต์แวร์ อุปกรณ์เครื่องใช้ในบ้าน ของตกแต่งบ้าน ของใช้เครื่องครัว เครื่องแต่งกายผู้ชายและผู้หญิง ผลิตภัณฑ์ความงามและสุขภาพ

อันดับ 3. Paytm

เป็นบริษัทที่เริ่มต้นจากให้บริการอี-วอลเลท แต่เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาได้เข้ามาลงทุนด้านอีคอมเมิร์ชอย่างเต็มตัว มีสินค้าหลากหลาย เช่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต

อันดับ 4. Snapdeal

เว็บไซต์นี้มีผู้ขายมากกว่า 300,000 รายทั่วอินเดีย นอกจากนี้ ยังมีสินค้าหลากหลายรายการ เช่น เครื่องแต่งกายทั้งชายและหญิง อุปกรณ์กีฬา อุปกรณ์และผลิตภัณฑ์สำหรับรถยนต์-รถมอเตอร์ไซต์ รวมถึงผลิตภัณฑ์ความงามและสุขภาพ

อันดับ 5. Myntra

เว็บไซต์ชั้นนำของอินเดีย เน้นสินค้าแฟชั่นออนไลน์สำหรับชายและหญิง ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว

ใครที่สนใจส่งออก หรืออยากมีโอกาสทางธุรกิจเพิ่มขึ้น อย่าลืมแวะไปงาน Smart SME Expo 2019 ในแนวคิด #ที่เดียวจบพบทางรวย 4-7 กรกฎาคม 2562 ฮอลล์ 7-8 อิมแพ็คอารีน่า เมืองทองธานี

ในงานได้รวบรวมแนวคิดการทำธุรกิจไว้มากมาย อาทิ โซนธุรกิจสุขภาพ-ความงาม โซนธุรกิจอาหาร-เครื่องดื่ม โซนนวัตกรรม โซนแฟรนไชส์ โซนสถาบันการเงิน และโซนสนับสุนนการทำธุรกิจ SMEs

ลงทะเบียนเข้าร่วมงานก่อนใครได้ที่ expo.smartsme.co.th

อ่าน: 7 เหตุผล ทำไมคนทำธุรกิจควรมางาน Smart SME Expo 2019