ห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ ผุดไอเดียสุดเจ๋ง ส่งของถึงตู้เย็นของลูกค้าได้เลย พร้อมวางระบบป้องกันความปลอดภัยครอบคลุม
ซูเปอร์มาร์เก็ตยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกาอย่าง “วอลมาร์ต” ประกาศจะเริ่มบริการส่งของชำ Delivery แบบพิเศษสุด โดยพนักงานจะนำสินค้าที่ถูกสั่งซื้อไปส่งพร้อมจัดเรียงให้ในตู้เย็นของลูกค้า โดยคาดว่าจะเริ่มให้บริการได้ภายในปีนี้ และจะให้บริการในสามเมืองของสหรัฐฯ คือ แคนซัส ซิตี ในรัฐมิสซูรี, พิตส์เบิร์ก และเวโรบีชในรัฐฟลอริดา ซึ่งมีประชากรรวมกันเกือบ 1 ล้านชีวิต
ส่วนรูปแบบ Delivery แบบพิเศษ ที่ส่งของถึงตู้เย็นของลูกค้าเลยนั้น วิธีการจะเริ่มจากลูกค้าที่อยากใช้บริการนี้ ต้องติดตั้ง Smart lock ที่ประตูบ้านหรือโรงรถ แล้วก็ออเดอร์ของชำจากเว็บไซต์ของวอลมาร์ต หรือแอปฯ มือถือ โดยเลือกวันที่จะให้ส่ง และเลือกว่าจะให้ส่งไปที่ครัวหรือโรงรถ
เมื่อถึงวันที่ต้องส่งของ พนักงานวอลมาร์ทที่สวมอุปกรณ์กล้อง จะเดินทางไปยังบ้านของลูกค้า ใส่รหัสที่ใช้ได้ครั้งเดียวลงในไปใน Smart lock แล้วนำของที่สั่งไว้ ไปใส่ในตู้เย็นของลูกค้า วิธีนี้เปิดโอกาสให้ลูกค้าติดตามและเห็นการส่งของได้จากทางโทรศัพท์
วอลมาร์ตอธิบายว่าพนักงานที่มีหน้าที่ส่งของ จะผ่านการฝึกและคัดกรองเป็นพิเศษ เพื่อจะได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเรียบร้อย
ไอเดียดังกล่าวมาจาก Bart Stein ผู้บริหารแผนกอีคอมเมิร์ซของวอลมาร์ต และยังถือเป็นนวัตกรรมการให้บริการส่งของชำแบบใหม่และน่าจะตรงกับความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น และได้ทดลองใช้ในรัฐนิวเจอร์ซีมาแล้ว 5 เดือน แต่ก็ต้องยอมรับว่าช่วงแรกของการทดลองลูกค้าแสดงความกังวลเพราะจะมีคนแปลกหน้าเข้ามาในบ้าน แต่เมื่อได้ทดลองใช้บริการก็เปลี่ยนความคิดดังกล่าวทันที
ผู้บริหารแผนกอีคอมเมิร์ซของวอลมาร์ต บอกอีกว่า เมื่อมีคนทดลองใช้แล้วจะบอกกันปากต่อปาก เพราะบริการใหม่ช่วยประหยัดเวลาให้คนสมัยนี้ได้มาก วอลมาร์ตจะให้บริการนี้ด้วยค่าบริการที่น่าดึงดูดใจ นอกจากรูปแบบการส่งของแบบใหม่แล้ว ในอนาคตอาจมีการจัดส่งสินค้าทั่วไปถึงในบ้านโดยไม่ต้องใส่กล่อง ซึ่งไม่เพียงเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังประหยัดต้นทุนอย่างมากสำหรับวอลมาร์ตด้วย
ทั้งนี้ วอลมาร์ตตั้งเป้าต้องการบริการส่งของให้ถึงมือลูกค้าเร็วที่สุด และประกาศว่าจะเข้าถึงผู้บริโภคอเมริกัน 75% ด้วยบริการส่งของที่เร็วขึ้น
พร้อมกันนี้ ยังมีรายงานอีกว่า ผู้บริโภคอเมริกันประมาณ 36.8% ซื้อของชำทางออนไลน์ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นจาก 23.1% ในการศึกษาเมื่อปี 2561 ของ Coresight Research ซึ่งประเมินว่าคนทั่วประเทศซื้อของชำทางออนไลน์เพิ่มขึ้นเกือบ 35 ล้านคนช่วงปี 2561-2562