ในฐานะ พนักงาน…ควรรับมืออย่างไรเมื่อบริษัท…อยู่ในภาวะวิกฤต


นับวันเศรษฐกิจของไทยดูจะแย่ลงๆ รวมไปถึงเศรษฐกิจโลกก็ยังไม่ฟื้นตัว ไม่ว่าจะเป็นคู่ค้าใหญ่ ๆ เช่น ตลาดสหรัฐฯ ตลาดในยุโรป ตลาดจีน จนทำให้ภาคการส่งออกยังมีปัญหา นอกจากนั้นการอัดฉีดเม็ดเงินจากภาครัฐก็ยังทำได้ไม่ดีนัก ดังนั้นหลายๆบริษัทขนาดใหญ่ ขนาดเล็กยังตกอยู่ในสภาวะขาดทุน หรือบางบริษัทถึงขั้นปิดกิจการ ถ้าเกิดคุณทำงานอยู่ในบริษัทที่อยู่ในสภาวะแบบนี้ควรเตรียมตัวรับมืออย่างไรบ้าง

1.อย่าทำตัว เป็นเจ้ากรมข่าวลือ

อย่าเป็นตัวตั้งตัวตี จับกลุ่มคุยกันเกี่ยวกับเรื่องสถานะการเงินที่แย่ๆ ของบริษัท ยิ่งถ้าคุณเป็นระดับผู้บริหารนั้นยิ่งต้องคอยประคับประคองการสื่อสารภายในองค์กรให้ดี อย่าทำเป็นคนปล่อยข่าวเสียเอง สถานการณ์แบบนี้การสื่อสารสำคัญมาก ถ้าปล่อยให้ข่าวลือมาก บริษัทยิ่งแย่ Morale ของพนักงานก็ยิ่งตก พนักงานจะไม่มีจิตใจในการทำงาน งานออกมาก็ไม่ดี ในทางกลับกันควรจะต้องช่วยๆ กันปลุกจิตใจเพื่อนร่วมงานให้นำพาบริษัทให้อยู่รอด

2.ต้นทุนในธุรกิจมากกว่า 50 % เป็นค่าจ้าง

ดังนั้นเวลาบริษัทมีปัญหาในด้านการเงิน บริษัทก็มักจะลดคนงานจากฝ่ายงานที่ไม่ Generate income หรือ Poor performer ก่อน เช่น Training ,PR ,admin , HR หรือพนักงานที่ทำงานไม่ Meet KPI ฯลฯ ดังนั้นบางทีถ้าคุณอยู่ในหน่วยงานแบบนี้ หรืออยู่ในข่ายนี้อาจจะเตรียมเตรียมใจและเข้าใจถึงความจำเป็นของบริษัท

3.ถ้าคิดว่าตัวเองอยู่ในข่ายที่จะโดนเลิกจ้าง อย่าโวยวาย

ทางที่ดี คือ พยายามรวบรวมสติ และเริ่มคิดหาทางออก ถ้ามันเกิดขึ้นจริง อย่าคิดมากไปก่อนจนเครียดเกิน เพราะจริงๆ แล้วคุณอาจจะไม่โดนก็ได้ แต่เพื่อไม่ความประมาท คิดแผนคร่าวๆ ไว้ก่อนก็ได้ จริงๆ คุณมีทางเลือกไม่กี่ทาง เช่น

3.1 หางานใหม่ในลักษณะงานเดิม ซึ่งถ้าภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ถือว่าไม่ง่าย ถ้าคุณไม่เปลี่ยนแปลงตัวเอง

3.2 หางานใหม่โดยไม่ติดยึดกับลักษณะงานเดิม หรือ ที่เหมาะสมกับความชอบ หรือสถานะทางการเงินของคุณ เช่น เปิดร้านขายของออนไลน์ หรือ ไปเป็นนักลงทุนเล่นหุ้นไปวันๆ

3.3 ถ้าคุณเป็นคนที่มีฐานะอยู่แล้ว อาจจะเตรียมการในเรื่องของชีวิตหลังเกษียณก่อนเวลาอันควร เช่น ดูแลลูกใกล้ชิดขึ้น หางานอดิเรกทำ เพื่อให้ชีวิตมีสุข

3.4 ไปหาคอร์สพิเศษ ที่เพิ่ม Skill ในตัวคุณ เช่น ภาษาที่สาม หรือ วิชาชีพไปเลยที่คุณสนใจ ในกรณีที่อยากทำกิจการตัวเองเพื่อเพิ่มทางเลือกในการหางานใหม่ให้ตัวเอง

3.5 เกริ่นๆกับครอบครัวไว้บ้างว่า สถานะของบริษัทไม่ค่อยดี แต่อย่าไปทำให้ครอบครัวคุณตกใจ เพื่อเวลามันมาถึงทุกคนในครอบครัวจะได้ร่วมกันแก้ปัญหา

3.6 Update resume และติดต่อ Head hunter และ ที่คุณสนิทให้ช่วยดูงานที่อื่น In case ว่าคุณโดนเลิกจ้าง

3.7 เช็คสถานะทางการเงินของตัวเองและครอบครัว ว่ามีเงินเก็บ หรือ มีค่าใช่จ่ายต่อเดือนเท่าไหร่ เพื่อจะได้เตรียมข้อมูล in case ถูกเลิกจ้างจริงๆ

4. หาข้อมูลในกรณีว่าโดนเลิกจ้างแล้วคุณจะได้อะไรบ้าง

เช่น ค่าชดเชยในการถูกเลิกจ้าง, Provident  fund และปรึกษาผู้ที่มีความรู้ในด้าน HR หรือ กฎหมาย เพื่อให้ทราบว่าบริษัทเลิกจ้างเราแบบเป็นธรรมหรือไม่

5. อยู่กับ crisis อย่างมีสติ

ทำงานที่ทำอยู่ให้ดีที่สุด จริงๆแล้ว crisis อาจจะไม่เลวร้ายอย่างที่คุณคิดก็ได้

ในฐานะพนักงานคุณคงทราบแล้วทั้งหมด ถ้าบริษัทที่คุณทำงานอยู่ในสภาวะวิกฤต คุณควรจะรับมืออย่างไร แต่ในทางกลับกันถ้าคุณเป็นเจ้าของกิจการของธุรกิจที่มีสภาพแบบนี้ แนะนำว่าจะทำอะไร อย่าทำอะไรจากมุมมองทางธุรกิจอย่างเดียว คุณควรคิดถึงด้านมนุษยธรรมด้วย วันนี้ ถ้าคอยช่วยเหลือกันระหว่างเจ้าของกับพนักงาน ร่วมด้วยช่วยกันจนกระทั่งผ่านสถานการณ์นี้ รับรองว่า บริษัทจะแข็งแกร่งกว่าเดิม และพร้อมที่เจอปัญหาทุกอย่างที่จะเข้ามาในอนาคต

By : ชยางกูร เเก้วบัณฑิต