The stronger ฅนหัวใจแกร่ง EP.22 สมนึก กัญญาเงิน ป้าตาบอดขายก๋วยเตี๋ยว


สมัยเด็ก ป้านึกหุงข้าวฟืนด้วยแหละ แม่ก็บอกว่าเดี๋ยวไฟจะไหม้บ้าน พอแม่ไปทำนาทำไร่ ป้าก็ลักหุงข้าว ค่อยๆทำไง เราจะได้เคยชิน: สมนึก กัญญาเงิน

รายการ The stronger ฅนหัวใจแกร่ง ครั้งนี้ ไปที่จังหวัดลพบุรี เพื่อพบกับสมนึก กัญญาเงิน คุณป้าผู้พิการทางการมองเห็นตั้งแต่เด็ก แต่ความน่าทึ่งของคุณป้าคือการทำอาชีพขายก๋วยเตี๋ยวมาได้ด้วยตัวเองตลอด 27 ปี

ป้านึกเล่าว่า ตอนเด็กช่วง 7 ขวบ เริ่มจากเป็นตาแดง พ่อกับแม่ก็พาไปหยอดยาหลายอย่าง และรักษาตามแบบหมอชาวบ้าน แล้วก็กลายเป็นซางขึ้นตา เจ็บปวดมาตลอด จากนั้นนัยน์ตาก็เป็นสีขาว มองเห็นเป็นเงาลางๆ รู้สึกกลัวมาก โดยเฉพาะแสงไฟกับแสงสว่าง กลัวอะไรมันจะมาชน จนต้องหลับตาไว้ให้สนิท และได้แต่ร้องไห้ แม่ก็เอายาอะไรต่ออะไรมาหยอดให้ เพราะอยากจะให้หาย แต่แล้วก็ไม่หาย

จนอายุได้ 16 ปี ก็มืดสนิทมองไม่เห็น ช่วงเด็ก เวลาเพื่อนไปโรงเรียน แล้วเขาพาไปด้วย เพื่อนๆเขาขึ้นเรียนหนังสือกัน แล้วเขาก็ปล่อยให้นั่งเล่นอยู่ใต้ถุนโรงเรียน ก็ฟังเขาท่อง อ่าน เรียน สมัยนั้นมันจะอ่านเป็นแบบ สระอะ สระอา แล้วเขาก็ท่องสูตรคูณ ป้านึกก็ฟังแล้วท่องตาม เลยท่องได้ถูก

ส่วนแม่ก็ซื้อวิทยุมาให้ฟังเพลง ฟังอะไรต่างๆ พอไปฟังก็ให้กำลังใจตัวเอง ว่าคนพิการมีเยอะ เพราะฉะนั้นเราไม่ต้องอายใคร เราสามารถคบค้าสมาคมกับคนได้ เมื่อก่อนแม่จะคอยดูแลทำกับข้าวกับปลาให้ และสอนทำก๋วยเตี๋ยว เราก็จำมา ซึ่งแม่เราเป็นแม่ค้า เวลาแม่จะทำอะไรก็ให้ ป้านึกจะเป็นลูกมือคอยช่วย ถึงได้รู้เรื่องข้าวปลาอาหาร และทำได้หมด

การทำอาหารตอนแรกก็ยากเหมือนกัน เพราะเรามองไม่เห็น แต่ต้องค่อยๆ ทำ ค่อยๆ สัมผัส แล้วจะค่อยๆ รู้ ว่าอันไหนคือผักชนิดอะไร ต่อมาก็ต้องค่อยๆ หั่น ค่อยๆ ทำ สมัยนั้น ใช้ฟืนหุงข้าว แม่ก็บอกว่าเดี๋ยวไฟจะไหม้บ้าน แต่ตอนแม่ก็ไปทำนาทำไร่ เราก็แอบก่อไฟหุงข้าวเอง เพื่อที่เราจะได้เคยชิน และทำได้

อย่างร้านก๋วยเตี๋ยวของป้า จะเป็นสูตรโบราณ ที่ไม่ได้เหมือนสมัยนี้ ซึ่งขายมานาน 27 ปีแล้ว ตอนขายแรกๆ ใช้ฟืนหุงมาตลอด แล้วก็ค่อยปรับมาใช้แก๊สตามยุคสมัย แต่ละวัน พอป้านึกตื่นมาก็จะหุงข้าว ทำกับข้าว ต่อมาก็จะตั้งหม้อก๋วยเตี๋ยว ถ้ามีของมาส่ง ป้าก็จะจัดตู้จัดถ้วยชาม จากนั้นก็จะหั่นหมู สับหมู หั่นผัก ล้างผัก พอหม้อก๋วยเตี๋ยวเดือดแล้ว ป้าก็จะปรุงก๋วยเตี๋ยว ปรุงทุกสิ่งทุกอย่างทำ แปดโมงเช้าก็พร้อมขายได้เลย ขายไปเรื่อยๆจนสี่โมงเย็นป้าก็จะเก็บร้าน

เราทำร้านก๋วยเตี๋ยว มันก็มีบ้างที่ได้รับอุบัติเหตุ มีมีดบาดบ้าง บางทีน้ำร้อนมาราดมือเรามันก็มี แต่ดีที่มีหลานสะใภ้มาช่วย เพราะป้าอายุเยอะแล้ว บางทีก็ทำไม่ค่อยจะไหว ส่วนลูกค้าบางวันก็มาเยอะ บางวันก็น้อย สำหรับรายได้ในแต่ละวัน บางวันขายได้ 1,500 บางวันได้ 1,000 บางวันก็ได้ 2,000 นี่คือรวมทั้งทุนทั้งกำไรแล้ว แต่ถ้าแยกกำไร เงินลงทุน 1,000 ถ้าขายหมดเราก็จะได้ประมาณ 400-500

ปัจจุบันบ้านหลังนี้ ป้าอยู่กับพี่ชาย และน้องชาย รวมกันเป็น 3 คน ซึ่งคนน้องหูไม่ได้ค่อยดี คุยกันก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง ส่วนตาเขาก็มองเห็นข้างเดียว อีกข้างหนึ่งเขาก็บอดเหมือนป้า ส่วนพี่ชายก็อายุเยอะ ทุกวันนี้ป้าก็เลยเป็นคนดูแลพี่กับน้อง

ในเรื่องการเข้าถึงสิทธิ์ สวัสดิการจากทางภาครัฐ ตอนนี้ก็มีเบี้ยยังชีพคนพิการ 800 บาท แล้วก็คนสูงอายุ 600 บาททั้งหมดก็ตกเดือนละ 1,400 บาท ส่วนการรักษาพยาบาลต่างๆก็ฟรีทั้งหมด นอกจากนั้นก็มีบริษัทคิงพาวเวอร์ ที่เข้ามาช่วยเหลืออีกเดือนละ 7,500 บาท คือเขาให้ป้าเลิกขายก๋วยเตี๋ยว เพราะเห็นว่าแก่แล้ว เดินจะล้มจะอะไรเขาก็เลยให้หยุดขาย แต่เขาจะให้เราตลอดไปหรือยังไงก็ไม่รู้ ส่วนเวลาเจ็บป่วยก็มีน้องสาวคนหนึ่งพาไปหาหมอ คนนี้รักกันมาก นับถือกันเป็นพี่สาวน้องสาว แต่เป็นคนละพ่อละแม่ ซึ่งคนนี้ช่วยเหลือป้าดีมาก เวลาไปหาหมอเขาจะไปคอยเฝ้าด้วย ก็ถือเป็นการช่วยเหลือเกื้อกูลกันในชุมชน

สุดท้ายอยากให้กำลังใจทุกคนว่า อย่าท้อถอย คือเราเกิดมาเราก็ต้องสู้ๆ เวลาป้านึกได้ยินข่าวคนฆ่าตัวตาย แต่เขามีทุกอย่างครบ 32 ป้านึกก็จะบอกว่าสู้ๆดีกว่า อย่า…อย่าท้อถอยเลย