กฟน. ลงพื้นที่คอยรุตตั๊กวา ส่งมอบโซลาร์เซลล์ และอุปกรณ์สนับสนุนศูนย์การเรียนรู้ด้านเศรษฐกิจพอเพียงและพลังงานสะอาด


วันนี้ (21 กรกฎาคม 2562) นายจาตุรงค์ สุริยาศศิน ผู้ช่วยผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เป็นประธานในพิธีส่งมอบแผงโซลาร์เซลล์ และอุปกรณ์สนับสนุนศูนย์การเรียนรู้ด้านเศรษฐกิจพอเพียงและพลังงานสะอาด ให้แก่ชุมชนแผ่นดินทองคอยรุตตั๊กวา เพื่อเป็นสาธารณประโยชน์ต่อการเรียนรู้ด้านพลังงานสะอาด ต่อยอดการเป็นชุมชนแห่งความพอเพียงอย่างยั่งยืน โดยมี นายสมใจ มณี ประธานชุมชนฯ เป็นผู้รับมอบ และได้รับเกียรติจากสำนักงานเขตหนองจอก สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) และโรงเรียนอิสลามลำไทร เข้าร่วมในพิธี ณ มัสยิดคอยรุตตั๊กวา ชุมชนแผ่นดินทองคอยรุตตั๊กวา แขวงโคกแฝด เขตหนองจอก กรุงเทพฯ

ผู้ช่วยผู้ว่าการฯ กล่าวว่า กฟน. ในฐานะหน่วยงานผู้รับผิดชอบด้านระบบจำหน่ายไฟฟ้าให้เพียงพอ มั่นคง ปลอดภัย ควบคู่กับการดำเนินการด้านการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของชุมชนยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ชุมชนแผ่นดินทองคอยรุตตั๊กวา ซึ่งถือเป็นชุมชนแห่งเดียวในกรุงเทพฯ ที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นพื้นที่กรณีศึกษาเศรษฐกิจพอเพียง เนื่องจากเป็นชุมชนที่น้อมนำแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มาใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวัน และยึดถือวิถีเกษตรมาโดยตลอดตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน พร้อมทั้งมีแหล่งเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงให้ประชาชนภายนอกได้ศึกษาอีกด้วย กฟน. จึงพร้อมให้การสนับสนุนเพื่อต่อยอดการพัฒนาชุมชน โดยได้ดำเนินการติดตั้งโซลาร์เซลล์ แบบ On Grid ขนาด 5,400 kWp ในพื้นที่มัสยิดคอยรุตตั๊กวา เพื่อเป็นการนำพลังงานสะอาดมาใช้ในพื้นที่ส่วนกลางของชุมชน ทั้งยังช่วยลดค่าใช้จ่ายค่ากระแสไฟฟ้า และเป็นแหล่งเรียนรู้เพิ่มเติมด้านพลังงานสะอาด

นอกจากนี้ กฟน. ยังติดตั้งโคมไฟพลังงานแสงอาทิตย์ จำนวน 3 จุด ในบริเวณมัสยิด เพื่อเพิ่มแสงสว่างและอำนวยความสะดวกในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ของมัสยิด พร้อมทั้งสนับสนุนอุปกรณ์สำหรับศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ได้แก่ ป้ายไวนิลภาพรวมฐานการเรียนรู้ต่าง ๆ ในชุมชน พร้อมป้ายโรลอัพให้ความรู้ในแต่ละฐาน จำนวนทั้งสิ้น 6 ชุด รวมถึงแผ่นพับความรู้ด้านพลังงานทดแทนสำหรับแจกให้ผู้ที่มาเยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้อีกด้วย

ทั้งนี้ กฟน. ยังให้การสนับสนุนชุมชนแผ่นดินทองคอยรุตตั๊กวาอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อปี 2559 กฟน. ได้สนับสนุนการเพาะเลี้ยงปลาดุกในบ่อซีเมนต์เพื่อใช้บริโภคและจำหน่าย โดยใช้ระยะเวลาการเลี้ยงต่อครั้งประมาณ 6 เดือน มีผลผลิตประมาณ 43 กิโลกรัมต่อบ่อ ซึ่งสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนคิดเป็นเงินประมาณ 1,132 บาทต่อเดือน และยังสามารถเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับหน่วยงานที่สนใจได้เช่นกัน นอกจากนี้ ในปี 2560 กฟน. ยังได้สนับสนุนสื่อการเรียนรู้สำหรับศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงในชุมชน ทำให้มีหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนให้ความสนใจมาศึกษาดูงาน ซึ่งจะช่วยให้เกิดการนำแนวคิดไปประยุกต์ใช้ในพื้นที่ของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ และนำไปสู่การสร้างความยั่งยืนของชุมชนต่อไป

#พลังงานเพื่อวิถีชีวิตเมืองมหานคร
Energy for city life, Energize smart living