ระวังตัวให้ดี! รู้ไหมว่าใช้ของละเมิดลิขสิทธิ์ต้องระวังโทษอะไรบ้าง


ขึ้นชื่อว่าสินค้าแบรนด์เนม เชื่อว่าย่อมเป็นที่ดึงดูดของใครหลายคนที่อยากจะควักเงินในกระเป๋าสตางค์ออกมา เพื่อซื้อสินค้าที่เราต้องการอยากได้ แต่ด้วยราคาที่ค่อนข้างแพง จึงทำให้สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ หรือเรียกง่ายๆ ว่าของปลอม จะกลายเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับผู้บริโภค เพราะด้วยราคาที่ถูกกว่า ดีไซน์ที่มองผ่านๆ เหมือนกับสินค้าตัวจริง

อย่างไรก็ตาม ขึ้นชื่อว่าสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ย่อมเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย ซึ่งมีบทลงโทษ ดังต่อไปนี้

หากมีการทำซ้ำ หรือดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของงานอันมีลิขสิทธิ์จะมีโทษปรับ 10,000-100,000 บาท อีกทั้งถ้ามีการทำเพื่อการค้าจะมีโทษจำคุก ตั้งแต่ 3 เดือน – 2 ปี และมีโทษปรับ 50,000 -400,000 บาท ซึ่งสามารถยอมความได้ โดยต้องมีผู้แจ้งความร้องทุกข์ 

นอกจากนี้ กรณีปลอมเครื่องหมายการค้าจะมีโทษจำคุก 4 ปี โทษปรับ 400,000 บาท และอีกกรณี คือการเลียนแบบเครื่องหมายการค้า เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าใจว่าเป็นเครื่องหมายการค้าของแบรนด์นั้น จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท แต่ไม่สามารถยอมความทั้ง 2 กรณี

ในส่วนของผู้ซื้อนั้นมีความพยายามแก้กฎหมายกำหนดอัตราโทษให้กับผู้ที่ซื้อสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 เรื่อยมาถึงปี พ.ศ.2559 แต่ก็ต้องตกไป เนื่องจากองค์กรผู้บริโภคมองว่า ผู้บริโภคไม่ได้มีประสบการณ์ หรือความชำนาญในเรื่องสินค้านั้นๆ ถึงแม้จะเก่งก็มีการถูกโดนหลอกได้ เพราะฉะนั้นจึงคุ้มครองผู้บริโภค โดยไปมุ่งเน้นเอาผิดกับผู้ที่ทำของปลอม, ผลิต, นำเข้า หรือผู้ขายแทน

ดังนั้น สรุปได้ว่าหากเราไปซื้อของปลอมมาใช้ นั่นหมายความว่าไม่มีความผิด อย่างไรก็ตาม เราก็ควรเลือกซื้อสินค้าที่ถูกลิขสิทธิ์ เพื่อเป็นการสร้างความถูกต้อง สนับสนุนเจ้าของแบรนด์ตัวจริง เพื่อจะได้ผลิตผลงานดีๆ ออกมาต่อไป