“จิ้งหรีดแปรรูป” อนาคตไกล เผยตลาดโลกต้องการโปรตีนจากแมลง 400 ล้านตันต่อปี โตปีละ 7%


หลังจากองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติหรือ FAO ของ UN ได้ออกรายงานเกี่ยวกับแมลงกินได้และกระตุ้นให้ทั่วโลก หันมาบริโภคแมลงให้มากขึ้น ส่งผลให้ปัจจุบันมีผู้บริโภคแมลงทั่วโลกถึง 2 พันล้านคน หรือ 1 ใน 3 ของประชากรโลก ในฐานะของแหล่งโปรตีนที่สำคัญในอนาคต ส่งผลให้ตลาดแมลงเติบโตและเข้าสู่ระดับอุตสาหกรรมในหลายๆ ประเทศรวมถึงไทย

ข้อมูลจากบริษัท โกลบอล บั๊กส์ เอเชีย หนึ่งในผู้ผลิตโปรตีนจิ้งหรีดของไทยที่ทำฟาร์มและโรงงานอยู่ในพื้นที่ ตำบลทับใต้ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ระบุว่า ในช่วงปี พ.ศ. 2561 ตลาดโลก มีความต้องการโปรตีนจากแมลงเป็นจำนวนมากถึง 400 ล้านตันต่อปี และจะเติบโตขึ้นเฉลี่ยปีละ 7% เมื่อคิดเป็นมูลค่า ในอีก 6 ปีข้างหน้า จะมีมูลค่าสูงถึง 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เลยทีเดียว

โดยพันธุ์จิ้งหรีดที่เกษตรกรนิยมเลี้ยงมีอยู่ 3 สายพันธุ์ ได้แก่ จิ้งหรีดทองดำ จิ้งหรีดทองแดง และจิ้งหรีดบ้านหรือสะดิ้ง โดยเลี้ยงในลักษณะฟาร์มขนาดเล็กในบ่อซีเมนต์ บ่อหนึ่งบ่อสามารถเก็บจิ้งหรีดได้ประมาณ 10 กิโลกรัม และราคาจำหน่ายประมาณกิโลกรัมละ 150 – 200 บาท สามารถมีรายได้ตั้งแต่ 5,000 – 20,000 บาทต่อเดือน

จากรายงานของนักวิจัยจากคณะกีฏวิทยา มหาวิทยาลัย Wageningen ประเทศเนเธอร์แลนด์ ชี้ว่าประเทศไทยมีศักยภาพสูงในการเป็นแหล่งผลิตอาหารที่ทำจากแมลง เนื่องจากประเทศไทยมีแมลงที่บริโภคได้มากกว่า 300 สายพันธุ์ อีกทั้งประเทศไทยมีแหล่งผลิตและบริโภคแมลงอยู่แล้ว ขณะเดียวกันในสหภาพยุโรปหรือ EU ได้มีการปรับปรุงกฎระเบียบเกี่ยวกับอาหารใหม่เพื่อให้สอดคล้อง กับการพัฒนาด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีของอาหารในปัจจุบัน โดยกฎระเบียบใหม่ของ Novel Foods (อาหารใหม่) มีผลบังคับใช้ไป เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2561 ที่ผ่านมา ได้มีการจัดให้ “แมลง” อยู่ในกลุ่มอาหารพื้นบ้านที่มีการบริโภคนอกอียูมาแล้วไม่ต่ำกว่า 25 ปี จึงเป็นโอกาสที่ดีในการส่งออกแมลงจากประเทศไทยด้วยเช่นกัน

ในปัจจุบันนี้ในหลายๆประเทศผู้ประกอบการอาหารที่ใช้วัตถุดิบจากแมลงเพิ่มมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ผลิตภัณฑ์อาหารเกี่ยวกับแมลงก็มีหลายรูปแบบ ยกตัวอย่างเช่น ซอสแมลง,แยมแมลง,แมลงผง,ลูกอมแมลง,แป้งทำขนม คุ๊กกี้แมลง,แมลงย่างรมควัน,ช็อกโกแลตแมลง,พาสต้าแมลง อีกรูปแบบหนึ่งคือ ใช้แมลงเป็นวัตถุดิบรับประทานเป็นอาหารโดยตรง เช่น เบอร์เกอร์แมลง หรือใช้เป็นส่วนผสมในบางเมนูเสิร์ฟในร้านอาหาร ร้านเบเกอรี่ โดยแมลงที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ได้แก่ จิ้งหรีด ซึ่งมีการขายในรูปของแมลงเป็นตัว เป็นแป้งแปรรูป ขายผ่านออนไลน์ถึงผู้บริโภคโดยตรง ขายส่งแมลงกินได้ และขายเพื่อเป็นอาหารสัตว์

นอกจากนี้ยังมีบริษัทที่ทำฟาร์มเลี้ยงแมลงและขายออนไลน์ ตามมาตรฐานการส่งออก ดำเนินกิจการแบบเจ้าของคนไทยและเป็นการร่วมทุนกับชาวต่างชาติ โดยเน้นการส่งออกแมลงในรูปแบบต่างๆ เป็นหลัก เช่น next-food.net และ Eco Insect Farming หรือแหล่งใหญ่อีกแห่งที่หมู่บ้านจิ้งหรีด อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น บ.อีโค่ ฟาร์มมิ่ง จำกัด ผู้รับซื้อจิ้งหรีดแปรรูปเพื่อการส่งออก มีโรงงานแปรรูปตั้งอยู่ จ.เชียงใหม่ ได้ผลิตแป้งจิ้งหรีดหรือจิ้งหรีดผง โดยส่งออกไปยังสหภาพยุโรปเป็นหลักด้วยรูปแบบผง เป็นส่วนผสมอาหาร ขนม พาสต้า อนาคตหากเปิดตลาดมากขึ้น ได้ตั้งเป้าส่งออกแป้งจิ้งหรีดไปยังสหภาพยุโรปราคากิโลกรัมละถึง 1,000 บาท เลยทีเดียว

ที่สำคัญ สินค้าแมลงแปรรูปได้รับความนิยมในตลาดยุโรปโยเฉพาะอังกฤษและเยอรมันนี โดยเฉพาะแป้งที่มีส่วนผสมของแมลงซึ่งสามารถมาแปรรูปเป็นเส้นพาสต้าหรือผสมในเบอร์เกอร์ที่เป็นเมนูอาหารที่ชาวยุโรปคุ้นเคยและรับประทานอย่างแพร่หลายอยู่แล้ว 

ปัจจุบันมีเกษตรกรเลี้ยงจิ้งหรีดมากกว่า 20,000 รายทั่วประเทศ ส่วนใหญ่อยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ เช่น ขอนแก่น กาฬสินธ์ มหาสารคาม พิจิตร เชียงใหม่ พิษณุโลก สุโขทัย มีกำลังการผลิตสูงถึง 7,500 ตันต่อปี ผลผลิตปีละ 7,500 ตัน มีมูลค่าเกือบ 1,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการบริโภคภายในประเทศ และเริ่มมีการส่งออกไปต่างประเทศนอกจากนี้ยังมีนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนผลิตแมลงในไทย โดยเฉพาะการเพาะเลี้ยงจิ้งหรีด พร้อมทั้งโรงงานแปรรูป รวมทั้งเทคโนโลยีการแปรรูปเป็นผงโปรตีนที่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงผลิตภัณฑ์จากแมลงได้ง่ายขึ้น เพราะกินโดยที่ไม่ต้องเห็นตัวเป็นๆ แต่มาในรูปแบบของการแปรรูปเรียบร้อยแล้ว…