ทำไมธุรกิจยุคนี้ต้องทรานส์ฟอร์มถึงจะอยู่รอด
การทำธุรกิจสมัยนี้ เราไม่อาจทำแบบเดิม ขายแบบเดิม บริหารแบบเดิมได้อีกต่อไป เพราะความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยมากขึ้นจึงเข้ามาเปลี่ยนแปลง ทำให้ธุรกิจที่ทำอยู่ดียิ่งขึ้น
ในโลกที่ยังหมุนไป ทุกอย่างย่อมมีขึ้นมีลงเป็นของคู่กัน ไม่เว้นแม้แต่คนที่เคยร่ำรวยเคยจับทางถูก ขายสินค้าหรือทำธุรกิจอะไรก็ได้กำไรดีเป็นเทน้ำเทท่า วันดีคืนดี ถูกคลื่นวิกฤติเศรษฐกิจพัดพามาแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว ทุนหายกำไรหดจนต้องประกาศปิดกิจการก็มีให้เห็นอยู่หลายรายและไม่เว้นแต่ละวัน
หากตอนนี้คุณเป็นอีกหนึ่งผู้ประกอบการที่กำลังหมดหนทาง หยิบจับอะไรก็เจ๊ง! ไม่เป็นท่า ลองตั้งสติใหม่ให้มั่นแล้วหันมาลองวิธีฟื้นฟู กอบกู้ให้การเงินของคุณกลับคืนมาอีกครั้ง จะได้ผลหรือไม่ ก็ยังดีกว่าไม่ลองทำอะไรเลย จริงไหม?
ให้กำลังใจตัวเอง
ในช่วงเวลาเลวร้าย แม้แต่กำลังใจก็ไม่เหลือ เชื่อว่าคงไม่มีใครจะมานั่งคิดว่าจะทำอย่างไรดีให้มีทางเอาเงินทุนทั้งของตัวเองที่สะสมไว้ หรือไปกู้หนี้ยืมสินที่ละลายหายไปกลับคืนมา เพราะถ้าทำได้มันคงไม่เจ๊ง…แต่เมื่อทุกอย่างมืดแปดด้านวิธีคือ แก้ไขและคลี่คลายมันทีละด้านแบบค่อยเป็นค่อยไป ก่อนอื่นเริ่มด้วยการปลอบใจตัวเอง ว่าไม่เป็นไร ที่ผ่านไปแล้วต้องให้มันแล้วไป ชีวิตเริ่มใหม่ได้เสมอแค่วันนี้เราล้ม และกำลังรอวันใหม่ที่จะสดใสกว่าเดิมเท่านั้นเอง
วางความเหนื่อยล้าออกจากตัวคุณให้หมด เพราะนี่คือโอกาสทองที่คุณพร้อมเปย์เวลาให้ตัวเองเต็มที่ ขนความทุกข์ออกมากองไว้เพื่อทบทวน เรียบเรียงทุกอย่างด้วยความเข้าใจด้วยตัวคุณเอง
ตั้งสติเพื่อเริ่มต้นใหม่
เอาล่ะค่ะ เมื่อใจคุณพร้อม สมองก็จะแล่น ตอนนี้คุณลองมาทบทวนอีกสักรอบว่าเราเสียอะไรไปบ้าง ที่ต้องมาสะสางให้จบ เพราะตราบใดที่เรายังคงวนเวียนอยู่กับหนี้สินหรือภาระกองโต ก็คง Move On ต่อไม่ได้ อาจจะใช้วิธีเช็คลิสต์เป็นข้อๆ ว่าเรามีหนี้คงค้างตรงไหน กับใครบ้าง ก้อนไหนที่ต้องรีบจ่ายเพื่อลดภาระดอกเบี้ยเบ่งบานก็จัดการเป็นส่วนๆ สิ่งไหนที่จำเป็นต้องตัดใจเพื่อไปต่อ…อย่ารอช้า ท่องไว้ในใจว่า ไม่ตายก็หาใหม่ ยิ่งเคลียร์ไววิกฤติเลวร้ายยิ่งจบได้เร็ว แต่สิ่งที่พึงระวังคืออย่าใจร้อนไปกู้เงินรายวันเพราะหลายรายที่ธุรกิจล้มเพียงแค่สะดุด แต่ต้องโดนฉุดจนตายไม่เหลือซากเพราะดอกเบี้ยสุดโหดก็ไม่ใช่แค่ในละคร เลี่ยงได้ เลี่ยงให้ไกลไปเลย
ตัดใจ เพื่อไปต่อ Move on
ลองหันกลับมาดู อดีตธุรกิจหรือกิจการของคุณว่ามีอะไรที่ขายเพื่อใช้ทำเป็นทุนเริ่มใหม่ได้บ้าง เริ่มจากข้าวของที่มีอยู่ แปลงสินทรัพย์ให้เป็นทุนหมุนให้รอดตายจากตรงนี้ไปก่อน อาจจะโพสต์ออนไลน์ประกาศขายเป็นมือสอง อย่ามัวแต่คิดว่าซื้อมาแสนแพงแต่ราคาที่ได้ช่างแสนสาหัส ให้คุณคิดซะว่าคุณและข้าวของอาจทำบุญร่วมกันมาเพียงเท่านี้ อย่างน้อยช่วงเวลาที่ไม่เหลืออะไรยังพอถูๆ ไถๆ ด้วยอุปกรณ์การขายที่เรามี ถ้ามันรู้สึกแย่จริงๆ ลองกลับไปท่องข้อ 2 ในใจดูอีกที เพื่อให้ผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากจะทำใจเหล่านี้ไปให้ได้
มองหาพรสวรรค์ขั้นเทพที่คุณมี
นอกจากสิ่งที่ทำมา ยังมีอะไรอีกหรือไม่ ที่พอจะเป็นหนทางสร้างรายได้ให้งอกเงย อย่าไปมองว่าคุณไม่เก่ง และอย่าลืมว่าคนอย่างคุณผ่านการทำธุรกิจมาแล้วเชียวนะ ไม่ใช่ทุกคนหรอกที่จะมีโอกาสแบบนี้ได้ ลองคิดดูสิ…กว่าจะมีธุรกิจของตัวเองสักอย่างต้องผ่านสารพัดขั้นตอน ไหนจะต้องหาทำเล กลุ่มเป้าหมาย เลือกสินค้า หาเฟอร์นิเจอร์ ซัพพลายเออร์ ดีลกันมาเป็นร้อยๆ ก็แค่หลายปัจจัยไม่เอื้ออำนวยให้ไปต่อ แต่ก็ไม่มีกฎข้อไหนที่บอกว่าเจ๊ง แล้วห้ามเริ่มใหม่ เช่นถ้าคุณทำอาหารอร่อย หรือมีสูตรเด็ดขนมที่ไม่เหมือนที่ไหนอาจจะลองเริ่มทำ แล้วถ่ายรูปสวยๆ Up ลงโซเชียลเพื่อปูทางเปิดตลาดใหม่ที่ไม่ต้องลงทุนลงแรงอะไรเยอะ อาจจะมีส่งบริเวณใกล้ๆ เริ่มจากเล็กๆ ไปก่อน ฮอตเมื่อไหร่ค่อยดีลแอปพลิเคชันเดลิเวอรี่ต่างๆ เพื่อเพิ่มช่องทางการรับออเดอร์ เป็นต้น
อย่าก่อหนี้เพิ่มเด็ดขาด
หากคุณคิดว่าจะกู้ที่ใหม่ มาโปะหนี้เก่า นั่นเป็นวิธีที่ผิดอย่างมหันต์ เพราะการกู้หนี้เพิ่มจะยิ่งทำให้เงินต้นและดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเร็วกว่าเดิม กลายเป็นหนี้พอกหางหมูที่ยิ่งทำให้วิกฤติ ยิ่งกลายเป็นวิกฤติกำลังสอง ถ้าไม่ไหวอย่าบอกไหว ให้ลองหารือกับสถาบันการเงิน ปรึกษาและหาทางแก้ไขปัญหาร่วมกับสถาบันการเงินที่เราเป็นหนี้ เช่น ขอลดจำนวนเงินที่ต้องจ่ายในแต่ละงวด โดยทำข้อตกลงว่าจะชำระหนี้ในจำนวนน้อยลงเท่าที่จะจ่ายได้ หรือขอลดดอกเบี้ยจนกว่าจะสามารถกลับไปชำระเงินในแบบเดิมที่เคยตกลงกันไว้ เป็นต้น ที่สำคัญ อย่าหนี เพราะการหนี อาจจะทำให้สถานการณ์เลวร้ายมากขึ้น รวมทั้งอาจมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าใช้จ่ายในการติดตามทวงถามหนี้เพิ่มขึ้นมาอีกก็เป็นได้
ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ แต่ถ้าวันนี้คุณเซ ล้ม ลุกไม่ได้….ปัดฝุ่นด้วยกำลังใจแล้วพยายามอีกครั้ง การลุกขึ้นยืนใหม่ แม้ว่าอาจจะไม่ใช่จุดเดิม แต่ก็ดีกว่าจุดที่ไม่มีแม้ที่ยืน
สู้ๆ นะคะ ^^
