โจทย์คนทำงานยุคใหม่ เลือกองค์กรไม่ใช่แค่มีชื่อเสียง แต่ทำแล้วต้องมีความสุข


แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ได้ทำโพลสำรวจการออกแบบงานในฝันของแรงงานยุคใหม่ ซึ่งพบว่าสิ่งที่ตอบโจทย์กับการเปลี่ยนแปลงในยุคนี้ ที่ไม่ใช่จะเลือกทำงานกับองค์กรมีชื่อเสียงเท่านั้น แต่องค์กรนั้นๆ จะต้องสร้างความสุขในที่ทำงานให้กับแรงงานด้วย

จากการสอบถามว่า “ถ้าหากคุณออกแบบงานในฝันได้ งานในฝันของคุณจะเป็นอย่างไร”

อันดับแรกที่โดนใจคนทำงาน คือ งานที่ทำแล้วมีความสุข สูงถึง 40% มากที่สุด และรองลงมาคือ เงินเดือนและสวัสดิการดี 20% อันดับต่อมาที่มีคะแนนเท่ากันคือ งานที่ทำแล้วชีวิตมีความสมดุล (Work-Life Balance) กับ ได้ทำงานที่ชอบ 16% ส่วนอีกสองอันดับรั้งท้ายคือ ได้ทำงานที่เป็นตัวของตัวเอง กับ ได้ทำงานเต็มศักยภาพ 4%

จากผลโพลดังกล่าว สะท้อนให้เห็นถึงการทำงานที่มีความสุขก่อให้เกิดพลังมหาศาล เพราะบุคลากรจะคิดดี ทำดี ยินยอมทุ่มเททำงานและพยายามสร้างผลงานที่ดีกับองค์กรอย่างต่อเนื่อง อยู่ทำงานให้กับองค์กรในระยะยาว

ทั้งนี้ ถ้าหากจะนึกถึง “ความสุข” นับเป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนปรารถนาที่จะมี ไม่ว่าจะเป็นในแง่มุมของชีวิตส่วนตัว ครอบครัว หรือการทำงาน คนที่มีความสุข คือคนที่มีภาวะอารมณ์ทางบวกอยู่เสมอ ซึ่งโดยทั่วไปคนทำงานใช้เวลาไม่ต่ำกว่าหนึ่งในสามของแต่ละวัน ใช้ชีวิตอยู่ในที่ทำงานเสมือนเป็นบ้านหลังที่สอง หากที่ทำงานน่าอยู่ คนทำงานก็จะอยากไปทำงาน และอยากแสดงผลงานให้ดีทุกวัน ดังนั้น จะเห็นได้ว่า ที่ทำงานมีบทบาทสำคัญต่อความสุขของบุคคล เพราะเมื่อที่ทำงานน่าอยู่ คนก็จะแข็งแรงและเป็นสุข พนักงานก็จะทำงานอย่างมีประสิทธิผลในระยะยาว การสร้างความสุขในการทำงานจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากในการปฏิบัติงานในองค์กร

ซึ่งวิธีสร้างความสุขในการทำงานได้ง่ายๆ นั้น แมนพาวเวอร์กรุ๊ปแนะนำไว้ 12 ข้อ ดังนี้

1. การแก้ปัญหาอย่างถูกวิธี

ในการทำงานย่อมมีปัญหาเกิดขึ้นได้ อย่าแก้ปัญหาโดยการใช้อารมณ์ ซึ่งจะทำให้เครียดมากขึ้น เพราะทุกปัญหามีทางออก ถ้าคิดไม่ออก หาคนช่วย ฝึกการถาม เมื่อแก้ปัญหาได้ ก็จะสบายใจ หายเครียด

2. การพัฒนาทักษะในการทำงาน

บางคนทำงานที่ไม่ถนัด งานที่ยาก งานไม่ตรงกับความรู้ความสามารถ ทำให้ผลงานออกมาไม่ดี ส่งผลให้หมดกำลังใจในการทำงาน ดังนั้น การพัฒนาตัวเองจะทำให้ประสบความสำเร็จกับงานมากขึ้น พร้อมจะได้รับการยอมรับจากผู้ร่วมงานและหัวหน้าเท่านี้ก็จะมีความสุข และภาคภูมิใจในงานที่ทำมากขึ้น

3. การปรับเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมในสถานที่ทำงาน

จัดของให้เป็นระเบียบและดูสะอาดตา หาภาพครอบครัว คนรัก หรือของที่มีค่าทางจิตใจวางไว้ใกล้ตัว เพื่อเตือนให้มีกำลังใจในการทำงาน หรือจัดกระถางต้นไม้ แจกันดอกไม้ เพื่อความสดชื่นกับสถานที่ทำงาน

4. การบริหารเวลาอย่างเหมาะสม

ซึ่งจะช่วยให้การทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีเวลาเหลือสำหรับการพักผ่อนและครอบครัวทำให้เครียดน้อยลง ควรทบทวนดูว่า ใช้เวลาแต่ละวันไปกับเรื่องใดบ้าง เพื่อการจัดแบ่งเวลาให้เหมาะสม ทั้งการทำงาน สังสรรค์ ครอบครัว และการพักผ่อน

5. การปรับเปลี่ยนความคิด

ถ้าเรารู้จักปรับเปลี่ยนความคิดในแง่มุมใหม่ จะช่วยให้เครียดน้อยลง ถ้ารู้สึกตัวเองคิดมากหาทางออกไม่ได้ควรหยุดคิดสักพัก คิดให้ยืดหยุ่นมากขึ้นกว่าเดิม คิดอย่างมีเหตุผล คิดอย่างที่คนอื่นคิด และคิดถึงคนอื่นบ้าง

6. การพักผ่อนหย่อนใจหลังเลิกงานแล้ว

เป็นเวลาที่ควรได้พักผ่อนหย่อนใจ เพื่อผ่อนคลายจิตใจทำให้พร้อมที่จะกลับไปทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ กิจกรรมพักผ่อนหย่อนใจมีอยู่มากมาย ควรเลือกตรงข้ามกับงานประจำ

7. การรู้จักยืนยันสิทธิของตน

ความเครียดอาจเกิดจากการยอม เกรงใจผู้อื่นมากเกินไป สิทธิที่ควรรักษา คือ สิทธิที่จะปฏิเสธอย่างมีเหตุผล สิทธิที่จะทำงานด่วนของตนให้เสร็จก่อน สิทธิที่จะไต่ถามเพราะความไม่เข้าใจ สิทธิเปลี่ยนใจเมื่อได้ข้อมูลใหม่

8. การสร้างความเข้มแข็งทางจิตใจ

จิตใจที่เข้มแข็งจะช่วยให้เอาชนะความเครียดได้ การสร้างเข้มแข็งทางจิตใจโดยสร้างความเชื่อมั่นให้ตนเอง พัฒนาปรับปรุงตัวเอง เข้าใจชีวิตว่า ไม่มีอะไรแน่นอน ไม่ยึดติดกับอดีต หรือกังวลกับอนาคตมากเกินไป สร้างความอบอุ่นในครอบครัว เพราะครอบครัวเป็นกำลังใจที่สำคัญในการต่อสู้กับอุปสรรค

9. การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมงาน

การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ร่วมงาน สามารถทำได้โดยเอาใจเขามาใส่ใจเราอยู่เสมอ เป็นผู้ฟังที่ดี คิดก่อนพูด วิเคราะห์ความต้องการของผู้อื่น ไม่เอาแต่ใจตัวเอง

10. การแสดงอารมณ์อย่างเหมาะสม

การแสดงอารมณ์ที่ไม่เหมาะสมทำให้เกิดความเครียด ควรฝึกควบคุมอารมณ์ คิดก่อนทำ ทำอย่างเหมาะสม จะได้ไม่เกิดปัญหาภายหลัง เมื่ออารมณ์ดี ควรแสดงออกด้วยการยิ้ม พูดเล่น ฮัมเพลง เพื่อให้คนใกล้ชิดรู้สึกดีด้วย

11. การออกกำลังกายที่เหมาะสม

การใช้พลังงานจนเหนื่อยและเหงื่อออกจะช่วยคลายเครียดได้ หลังเลิกงานหรือในวันหยุดควรออกกำลังกายหรือเล่นกีฬากับกลุ่มเพื่อนจะรู้สึกสนุกสนานและเพลิดเพลินยิ่งขึ้น การช่วยกันทำงานบ้านในวันหยุด ก็ถือว่าเป็นการออกกำลังกายที่ดีและช่วยกระชับความสัมพันธ์ในครอบครัว

12. การพูดอย่างสร้างสรรค์

จะช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีในการทำงาน สวัสดี ขอโทษ ขอบคุณ เป็นประโยคที่ควรพูดติดปาก หมั่นพูดชมเชย ถามทุกข์สุข ให้กำลังใจ ประสานความเข้าใจ เพื่อลดความขัดแย้งในการทางาน จะช่วยตัดปัญหา ลดความเครียดได้

ทั้งนี้ จากผลโพลงานในฝันของคุณจะเป็นอย่างไร สอดคล้องกับการเลือกทำงานในยุคนี้เพราะทำแล้วต้องมีความสุข ซึ่งหัวใจในการทำงานให้มีประสิทธิภาพและมีความสุขทำได้โดยง่ายและหลากหลายวิธีดังที่ได้กล่าวมาแล้วนั้น การสร้างความสุขในการทำงานสามารถทำได้ไม่ยาก โดยเริ่มจากตัวเราเอง ก่อนส่งต่อพลังงานบวกให้กับเพื่อนร่วมงาน หัวหน้างาน สู่สังคมแห่งการทำงานที่มีความสุขต่อไป