รู้จัก “ฉลากเขียว” เครื่องหมายช่วยสะท้อนความยั่งยืนของแบรนด์ต่อสิ่งแวดล้อม
ฉลากเขียวของประเทศไทย ริเริ่มขึ้นโดยองค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Thailand Business Council for Sustainable Development, TBCSD)
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ว่าจะเป็น เหล้า, เบียร์ ถือว่าอยู่คู่กับคนไทยมาเป็นระยะเวลายาวนาน เรียกได้ว่ามีงานเลี้ยงที่ไหนต้องเครื่องดื่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของงานนั้นๆ
อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจจะไม่ได้มองถึงผลลัพธ์ในทางลบของการดื่มแอลกอฮอล์ว่าจะส่งผลกระทบต่อร่างกายอย่างไร แต่ขอเพียงแค่ดื่มแล้วรู้สึกสนุกสนาน ได้เฉลิมฉลองไปกับคนที่เรารู้จักเป็นพอ แต่อีกด้านหนึ่ง นักดื่มจะรู้หรือไม่ว่าการดื่มเหล้ามากๆ อาจนำมาสู่เรื่องที่ไม่คาดคิดต่อตัวเองที่ร้ายแรงที่สุด นั่นคือ “การเสียชีวิต” เลยก็ว่าได้ หากผู้นั้นได้รับปริมาณแอลกอฮอล์ที่มากจนเกินไป
เฟซบุ๊กแฟนเพจ หมอแล็บแพนด้า ได้ให้ความรู้ในเรื่องนี้ว่า สาเหตุที่ทำให้คนดื่มเหล้าแล้วเสียชีวิตได้ เพราะร่างกายคนเราไม่เหมือนกัน บางคนเสียชีวิตเพราะแอลกอฮอล์ออกฤทธิ์กดระบบประสาทส่วนกลาง ถ้ากระดกเร็วๆ จะทำให้แอลกอฮอล์ในกระแสเลือดเพิ่มขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว เสี่ยงต่อการสำลัก อาเจียน หายใจไม่ออก หยุดหายใจ หมดสติ
อย่างการออกไปดื่มตามสถานบันเทิงหรือไปปาร์ตี้ แน่นอนว่าร่างกายไม่มีเวลามากพอที่จะขับแอลกอฮอล์ออกจากร่างกายได้หมด เพราะแอลกอฮอล์ยังถูกเติมเข้าไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็ชนแก้ว เดี๋ยวก็สุดซอยยย อาจทำให้เกิดแอลกอฮอล์เป็นพิษแบบเฉียบพลัน
ระดับแอลกอฮอล์ในเลือดกับอาการของคนที่ดื่ม มีดังนี้
1. ถ้าระดับแอลกอฮอล์ในเลือด 30 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ หรือดื่มเหล้า 4 แก้ว แก้วละ 1 ฝา จะมีอาการครึกครื้น สนุกสนานร่าเริง
2. ถ้าระดับแอลกอฮอล์ในเลือด 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ หรือดื่มเหล้า 6 แก้ว แก้วละ 1 ฝา จะ มีทำให้การควบควบคุมการเคลื่อนไหวเสียไป ไม่สามารถควบคุมได้ดีเท่าภาวะปกติ
3. ถ้าระดับแอลกอฮอล์ในเลือด 100 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ หรือดื่มเหล้า 12 แก้ว แก้วละ 2 ฝา จะมีอาการเดินไม่ตรงทาง
4. ถ้าระดับแอลกอฮอล์ในเลือดมากกว่า 200 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ หรือดื่มเหล้า 24 แก้ว แก้วละ 2 ฝา จะเกิดอาการสับสน
5. ถ้าระดับแอลกอฮอล์ในเลือดมากกว่า 300 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จะมีอาการง่วง งง และซึม
6. ถ้าระดับแอลกอฮอล์ในเลือดมากกว่า 400 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จะเกิดอาการสลบ และอาจถึงตายได้