สจล. พัฒนา “หุ่นยนต์ขายหมูปิ้ง” หนุนสตรีทฟู้ดยุคใหม่ อาหารริมทางอร่อย-ถูกสุขลักษณะ


นักวิชาการ เผย “สตรีทฟู้ดไทย” สร้างเม็ดเงินเฉลี่ยต่อปีถึง 2.28 แสนล้านบาท! พร้อมชูโมเดลต้นแบบ “สตรีทฟู้ดชุมพร” มาตรฐานใหม่อาหารริมทางอร่อย-ถูกสุขลักษณะ

สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ชงรัฐบาลหนุน “ธุรกิจสตรีทฟู้ดไทย” และตระหนักหลักฟู้ดเซฟตี้ ปัจจัยสำคัญขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจมวลรวมของประเทศ พร้อมผุด 3 นวัตกรรมยกระดับคุณภาพสตรีทฟู้ดไทย ที่มาแรงในขณะนี้ โดยสร้างเม็ดเงินเข้าประเทศเฉลี่ยต่อปีกว่า 2.28 แสนล้านบาท ซึ่งมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 5.4%

 

 

ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าวว่า สจล. ผุดแคมเปญ “สจล. เตรียมยกระดับสตรีทฟู้ดไทย หนุนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวระดับเวิร์ลคลาส” (World Class) ครั้งแรก! มุ่งเร่งเครื่องมาตรฐานอาหารปลอดภัยของธุรกิจสตรีทฟู้ด (Street food) กรุงเทพฯ ให้ได้มาตรฐานความปลอดภัยด้านอาหาร (Food safety) ผ่านการเปิดคอร์สเสริมศักยภาพผู้ประกอบการ ทั้งหลักการปรุง คุณประโยชน์ การพัฒนาเรื่องสูตร แพคเกจจิ้ง (Packaging) เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ให้มีความมั่นใจในความสะอาด ปลอดภัย ที่ยังคงเอกลักษณ์เรื่องรสชาติความอร่อย พร้อมจี้รัฐบาลหนุน “ธุรกิจสตรีทฟู้ดไทย” และตระหนักถึงความสำคัญของฟู้ดเซฟตี้ที่มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจมวลรวมของประเทศ ทั้งนี้ แคมเปญดังกล่าว นับเป็นการตอกย้ำจุดแข็งของสถาบันที่เป็น “รากฐานนวัตกรรม” ของประเทศ ที่มุ่งพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมยกระดับสังคมในมิติต่างๆ ตลอดจนปูทางประเทศไทยให้เป็นสังคมแห่ง “สมาร์ทซิตี้” (Smart City) ในอนาคต

โดยล่าสุด สจล. ได้พัฒนา 3 นวัตกรรมต้นแบบเพื่อสายสตรีทฟู้ดยุคใหม่ ได้แก่

• “รถเข็นผลไม้ไฮโซ สะอาด ปลอดภัย ด้วยระบบสุดไฮยีน” (Hygiene) มาพร้อมระบบทำความเย็นผลไม้ และระบบกรองน้ำดี-น้ำเสีย ที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภคได้ว่า จะได้รับผลไม้ที่ทั้งสด-สะอาดอย่างแน่นอน จากการมีช่องทำความเย็นมาตรฐานที่ช่วยคงความสดผลไม้ และมีการชำระล้างผลไม้ด้วยน้ำที่ผ่านระบบกรองก่อน-หลังใช้เพื่อให้ผู้ค้าสามารถเททิ้งได้โดยไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งในอนาคตเตรียมพัฒนาต่อในรูปแบบธุรกิจอาหารประเภทก๋วยเตี๋ยว

 

 

• “รถเข็นหมูปิ้ง กรองควันใสปิ๊ง ด้วยระบบบำบัดควันสุดไฮเทค” มาพร้อมเตาปิ้ง ชุดกรองอากาศ ระบบกรองน้ำ ถังเก็บน้ำเสีย-ไขมัน รวมถึงระบบให้แสงสว่างด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ที่นอกจากจะได้รับหมูปิ้งที่ปลอดภัยและมือผู้ขายที่ดูสะอาดหมดจดแล้ว ยังมีระบบบำบัดควันที่เกิดจากการปิ้งย่างให้เบาบางลง รวมถึงระบบคัดกรองน้ำเสียที่สามารถแยกน้ำดีและไขมันออกจากกัน เพื่อความสะดวกในการกำจัดทิ้งของผู้ค้า ซึ่งในอนาคตเตรียมนำเทคโนโลยีเข้ามาปรับใช้
เพื่อเพิ่มฟังก์ชันในการออเดอร์สินค้า และบอกโภชนาการที่ผู้บริโภคจะได้รับ

 

 

• “หุ่นยนต์ขายหมูปิ้ง หนุนเพิ่มเวลาผู้ค้า ลดเสี่ยงเสิร์ฟหมูไหม้” หุ่นยนต์แขนกล ที่มาพร้อมความสามารถในการหยิบจับ และเตรียมอาหารให้พร้อมเสิร์ฟได้ด้วยตนเอง เพื่ออำนวยความสะดวกผู้ค้าให้มีเวลาในการเตรียมการในส่วนอื่นๆ เพิ่มขึ้น อีกทั้งลดความเสี่ยงการรับประทานอาหารที่ไหม้หรือสุกเกินพอดี (Overcooked) ของผู้บริโภค เนื่องจากผู้พัฒนาได้ทำการป้อนข้อมูลให้หุ่นยนต์หยิบหมูปิ้งขึ้นจากเตาย่าง ในเวลาที่กำหนด เพื่อป้องกันหมูไหม้เกรียม และลดเสี่ยงการบริโภคอาหารที่ไม่ปลอดภัยของผู้บริโภค

 

 

นายชวพจน์ ชูหิรัญ เจ้าของธุรกิจหมูปิ้งนมสด “หมูปิ้งเฮียนพ” เจ้าของโรงงานหมูปิ้งแห่งแรกของไทย ที่มีวุฒิการศึกษาเพียงชั้น ม.3 แต่ให้ความสำคัญกับ “มาตรฐานอาหารปลอดภัยเป็นอันดับหนึ่ง” กล่าวว่า จุดเริ่มต้นธุรกิจแม้จะเกิดจากความไม่ตั้งใจที่ต้องเข้ามารับไม้ต่อในปี 2551 พร้อมกับวุฒิการศึกษาเพียงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 แต่ก็ไม่ละความพยายามในการพัฒนาตนเอง หมั่นเพิ่มพูนความรู้เกี่ยวกับธุรกิจและหลักการตลาดอย่างต่อเนื่อง

 

 

 

จนกระทั่งได้รับคำแนะนำจากลูกค้ารายใหญ่ให้ยกระดับธุรกิจ จากระดับเอสเอ็มอี (SME) สู่ระดับอุตสาหกรรม ซึ่งนั่นทำให้บริษัทได้จดทะเบียนธุรกิจในปี 2556 ด้วยทุนจดทะเบียนถึง20 ล้านบาท ไม่เพียงเท่านั้น ตนยังเดินหน้าสร้างและพัฒนาโรงงานให้ได้มาตรฐานการผลิต (GMP) ด้วยเป้าหมายที่ต้องการเพิ่มศักยภาพการผลิตและขยายไลน์ธุรกิจเพิ่มมากขึ้น ทั้งการรับจ้างผลิต (OEM) หมูปิ้ง ไก่ย่าง ไส้กรอก ไส้อั่ว หมูพวง และหมูไอติม การขายส่งให้กับผู้ค้าทั่วไป และการส่งออกต่างประเทศ นอกจากนี้ ยังผลิตไม้เสียบอาหารให้กับผู้ประกอบการทั่วไป และรับขนส่งสินค้าด้วยรถควบคุมอุณหภูมิ ซึ่งความพยายามทั้งหมดนี้ ทำให้บริษัทตนมีรายได้โดยเฉลี่ยกว่า 200 ล้านบาทต่อปี