สถิติชี้คนไทยพยายามฆ่าตัวตายปีละ 5.3 หมื่นราย


ผงะ! คนไทยพยายามฆ่าตัวตายปีละ 5.3 หมื่นราย สำเร็จ 2 ชม. 1 คน เตรียมเปิดสายด่วนสุขภาพจิต 1323 เพิ่มอีก2 เท่า หลังเครือข่ายเยาวชน ยื่น 3 ข้อเสนอ เปิดช่องอายุต่ำกว่า 18 ปีเข้าถึงการรักษาสุขภาพจิต

วันที่ 10 ต.ค.62 เครือข่ายสุขภาพจิตแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยเยาวชนเลิฟแคร์ ตัวแทนเด็กและเยาวชน ได้เดินทางมายื่นหนังสือต่อนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข เนื่องในวัน “สุขภาพจิตโลก” เนื่องจากพบปัญหาเด็กและเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี เข้าไม่ถึงการบำบัดรักษาด้านสุขภาพจิตได้โดยตรง เหตุสถานพยาบาลตีความมาตรา 21 พ.ร.บ.สุขภาพจิตแห่งชาติ พ.ศ. 2551 แตกต่างกัน ทำให้เยาวชนจำนวนหนึ่งเข้าไม่ถึงบริการ บางรายมีอาการรุนแรงถึงขั้นทำร้ายตัวเอง โดยมีข้อเรียกร้อง 3 ข้อ คือ

1. ขอให้กรมสุขภาพจิตทำหนังสือเวียนถึงหน่วยบริการในสังกัดกรมสุขภาพจิตและหน่วยบริการที่มีบริการด้านจิตเวช เพื่อชี้แจงและซักซ้อมแนวปฏิบัติในกรณีผู้ที่อายุไม่ถึง 18 ปีบริบูรณ์สามารถเข้ารับการบำบัดรักษาได้ โดยไม่ต้องมีผู้ปกครองให้ความยินยอม ยกเว้นกรณีที่ต้องรับไว้รักษาในสถานพยาบาลหรือสถานบำบัดให้ชัดเจน

2.ขอให้ผู้รับบริการเข้ารับการรักษาได้ในทุกหน่วยบริการที่มีบริการด้านจิตเวช เพื่อลดขั้นตอนในการทำเรื่องขอใบส่งตัวจากสถานพยาบาลตามสิทธิ์ ในกรณีที่ไม่มีบริการด้านจิตเวช เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการรักษาที่รวดเร็วและไม่เป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตของผู้ป่วย

3.ขอให้มีตัวแทนเด็กและเยาวชนในคณะกรรมการสุขภาพจิตแห่งชาติ หรือคณะทำงานด้านนโยบายสุขภาพจิต เพื่อเสนอประเด็นปัญหาที่มีผลต่อเรื่องสุขภาพจิตของเด็กและเยาวชน รวมถึงในการวางแนวทางปฏิบัติที่เด็กและเยาวชนนั้นมีส่วนได้ส่วนเสีย

นายสาธิต กล่าวว่า ข้อเรียกร้อง ข้อ 1 และข้อ 3 สามารถดำเนินการได้เลย ส่วนข้อ 2 จะต้องนำไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งยอมรับว่าปัญหาสุขภาพจิตในเด็กและเยาวชนมีตัวเลขที่สูงขึ้นจากหลายปัจจัย ทั้งเรื่องของการเรียน เศรษฐกิจ ครอบครัว การใช้เทคโนโลยี หรือแม้แต่การเมือง

โดยสถานการณ์ในภาพรวมระดับประเทศของไทยพบว่ามีคนพยายามฆ่าตัวตายปีละประมาณ 53,000 ราย หรือ 9.55 ราย ต่อนาที และมีการฆ่าตัวตายสำเร็จปีละราว 4,000 รายหรือ 1 รายในทุกๆ 2 ชั่วโมง ซึ่งเป็นตัวเลขที่ไม่ได้เพิ่มขึ้นแต่อย่างใด เพียงแต่มีแนวโน้มพบการทำร้ายตัวเองมากขึ้นในคนที่มีอายุต่ำกว่า 30 ปีลงมา

นายสาธิตกล่าวอีกว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องเน้นการใส่ใจรับฟังคนรอบข้างให้มากขึ้น และในปี 2563 กรมสุขภาพจิตจะมีการเปิดคู่สายด่วนสุขภาพจิต 1323 เพิ่มขึ้นจาก 10 คู่สายเป็น 20 คู่สาย อาจจะยังน้อยอยู่ แต่การทำงานเรื่องนี้ต้องการคนที่เชี่ยวชาญจริงๆ และจะมีการนำหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา การปล่อยวาง เข้าใจ ก้าวข้าม เเละรู้จักความผิดหวัง มาให้เยาวชนได้เรียนรู้ เพื่อให้มีภูมิคุ้มกันในการใช้ชีวิต โดยได้ตั้งงบประมาณไว้แล้ว เเละจะนำมาเริ่มใช้ในปี 2563 เป็นต้น