การซื้อขายบนโลกออนไลน์นั้น มีอุปสรรคสำคัญคือการพูดคุยผ่านตัวหนังสือโดยที่ไม่เห็นหน้าตาหรือรู้จักคุ้นเคยกันมาก่อน จึงเป็นช่องทางให้เหล่ามิจฉาชีพแฝงตัวเข้ามาหลอกลวงอยู่มากมาย ซึ่งส่งผลกระทบที่ทำให้ลูกค้าหรือผู้บริโภคต้องคอยระวังตัว และไม่ไว้ใจร้านค้าออนไลน์ง่ายๆ กว่าจะตัดสินใจซื้อต้องเช็คแล้วเช็คอีกเพราะไม่อยากเสียเงินไปฟรีๆ
วันนี้เรามีเทคนิคที่จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้ลูกค้ากล้าตัดสินใจใช้บริการคุณแบบไม่ต้องคิดเยอะ ดังนี้
1. เว็บไซต์ใช้งานง่าย
การสร้างความประทับใจแรกเห็นสำคัญมาก กล่าวคือเมื่อลูกค้ากดเข้ามาที่เว็บไซต์คุณแล้ว เขาต้องการจะดูอะไรที่น่าเชื่อถือ และน่าประทับใจไปพร้อมๆ กัน เว็บไซต์ที่มีการออกแบบ UX/UI มาเป็นอย่างดี ใช้งานง่าย รวดเร็ว ไม่มีกระตุก จะช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานให้กับเขา ทำให้เขารู้สึกว่าเว็บไซต์ของคุณเป็นมิตรได้มากกว่าปกติ
2. ปรับปรุงให้ทันสมัยอยู่เสมอ
รูปแบบการทำเว็บไซต์นั้นแตกต่างกันออกไปทุกปีตามพฤติกรรมของผู้บริโภค ซึ่งคุณสามารถสังเกตได้จากเว็บไซต์เก่าๆ ที่ไม่มีการอัปเดตนั้น หน้าตาจะดูไม่น่าสนใจและมีการใช้งานที่ยาก ไม่ชวนให้กดเข้าไปดูในส่วนต่างๆ ที่มีในเว็บเลย ซึ่งภาพลักษณ์ที่แย่แบบนี้จะยิ่งทำให้ลูกค้าถอยห่าง ไม่กล้าใช้บริการมากขึ้น
กลับกันถ้าคุณใส่ใจและให้ความสำคัญกับการปรับปรุงเว็บไซต์ให้ทันสมัย ก็จะช่วยเสริมภาพลักษณ์ให้ร้านคุณและลูกค้าจะรู้สึกได้ทันทีว่าเว็บไซต์ของคุณยังคงเปิดให้บริการ ไม่เสี่ยงต่อการจ่ายเงินแล้วชิ่งหาย
3. มีหน้ารีวิวจากลูกค้าเก่าให้เห็น
ข้อนี้สำคัญอย่างยิ่ง เพราะลูกค้าใหม่ๆ ที่เข้ามาจะถามหาความน่าเชื่อถือก่อนตัดสินใจซื้อ และเขาจะไม่เพียงแต่เข้ามาเพื่ออ่านคุณสมบัติสินค้าเท่านั้น เขาจะไม่เชื่อในส่วนนี้ แต่เขาจะนำชื่อสินค้าของคุณไปเสิร์ชค้นหา และดูรีวิวจากผู้ใช้งานจริง ซึ่งคุณสามารถประหยัดเวลาลูกค้า และสร้างภาพลักษณ์ให้ดูดีได้ โดยการนำรีวิวสินค้าจากผู้ใช้งานของคุณมาวางไว้บนเว็บไซต์ ซึ่งการมีคนมารีวิวจริงให้เห็นแบบนี้จะเพิ่มความไว้วางใจในการสั่งซื้อสินค้าได้มากถึง 70% เลย
4. อย่าละเลยลูกค้าเก่า
หลังจากปิดการขายครั้งแรกได้แล้ว คุณห้ามปล่อยผ่านลูกค้าหน้าเก่าเหล่านั้นเด็ดขาด เพราะคุณสามารถกระตุ้นตลาดได้อย่างต่อเนื่อง โดยการเสนอโปรโมชั่นพิเศษให้เขา โดยขอให้เขาเขียนรีวิวสินค้าของคุณลงตามเว็บไซต์ต่างๆ เพื่อเป็นการทำ SEO และโปรโมตสินค้าคุณไปในตัว แลกกับส่วนลดในการซื้อครั้งต่อไป หรืออาจจะเริ่มต้นง่ายๆ จากการขอให้เขาถ่ายรูปสินค้าและโพสต์ลงโซเชียลมีเดียของตัวเองก็ได้เช่นกัน ขั้นตอนง่ายๆ แบบนี้จะช่วยให้ลูกค้ามีกำลังใจ อยากแนะนำ บอกต่อ และกลับมาใช้บริการจากคุณ
5. มีช่องทางติดต่อรอบด้าน
ลูกค้าส่วนใหญ่ในธุรกิจออนไลน์ เกือบ 100% มักจะต้องการติดต่อ พูดคุยผ่านทางโทรศัพท์ หรือช่องทางการแชทกับเจ้าของร้านโดยตรงก่อนตัดสินใจซื้อ เขาจะไม่ดูแค่เพียงสินค้าอย่างเดียวแล้วกดสั่ง แต่ต้องการได้พูดคุยกับใครสักคน และสอบถามข้อมูลต่างๆ ที่สนใจ (ถึงแม้ข้อมูลเหล่านั้นจะมีบอกไว้อย่างครบถ้วนแล้วก็ตาม) ซึ่งถ้าคุณใส่ข้อมูลช่องทางการติดต่อไว้อย่างครบถ้วน ทั้งเบอร์โทรศัพท์ Facebook หรือ Line ให้เขาสามารถตามในช่องทางเหล่านั้นได้ ก็จะช่วยให้รู้ได้ทันทีว่าร้านค้าของคุณมีตัวตน และทำให้เขารู้สึกสบายใจที่จะใช้บริการ