รู้จัก “ฉลากเขียว” เครื่องหมายช่วยสะท้อนความยั่งยืนของแบรนด์ต่อสิ่งแวดล้อม
ฉลากเขียวของประเทศไทย ริเริ่มขึ้นโดยองค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Thailand Business Council for Sustainable Development, TBCSD)
ประเทศไทยก้าวเข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเป็นทางการในวันที่ 17 ตุลาคม 2562 โดยบางพื้นที่ เช่น ตามยอดดอย ที่อุณหภูมิเริ่มลดลง ดึงดูดให้ผู้คนได้เดินทางไปสัมผัสอากาศหนาว
อย่างไรก็ตาม เมื่อฤดูหนาวมาถึงเรื่องหนึ่งที่ไม่ควรปล่อยปะละเลย คือการดูแลสุขภาพ เนื่องด้วยอากาศเกิดการเปลี่ยนแปลง หากปล่อยปะละเลยย่อมเกิดอาการเจ็บป่วยได้ง่าย ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันตนเอง เพื่อลดอาการเจ็บป่วย เรามาดูกันว่าในช่วงฤดูหนาวที่โรคติดต่ออะไรบ้างที่ประชาชนควรเผ้าระวัง ตามข้อมูลของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
1.โรคหัด
จะมีอาการคล้ายไข้หวัด หลังมีไข้ 3-4 วัน จะเริ่มมีผื่นนูนแดงขึ้น 1-2 วัน ไข้จะเริ่มลดลง และผื่นจะจางหายไปประมาณ 2 สัปดาห์ โรคนี้สามารถป้องกันได้ด้วยวัคซีน
2.โรคไข้หวัดใหญ่
จะมีอาการไข้ ไอ มีน้ำมูก ปวดเมื่อยตามตัว โรคนี้ป้องกันได้โดยการดูแลสุขภาพของตัวเองให้แข็งแรง หากมีอาการดังกล่าว แนะนำให้หยุดเรียนหรือหยุดงานทันที และรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษา
3.โรคปอดอักเสบ
ผู้ป่วยจะมีไข้ หายใจลำบาก หนาวสั่น อุณหภูมิร่างกายต่ำกว่าปกติ โรคนี้ป้องกันโดยหลีกเลี่ยงอยู่ในที่ที่มีผู้คนแออัด ล้างมือบ่อย ดื่มน้ำมากๆ รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ หากสงสัยว่ามีอาการดังกล่าว ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
4.โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลันจากเชื้อไวรัส
จะมีอาการไข้ อาเจียน อุจจาระร่วงอย่างรุนแรง ทำให้เสียน้ำมาก สำหรับการรักษา จะรักษาตามอาการ เช่น ยาแก้อาเจียน ยาแก้ปวดท้อง และให้เกลือแร่ทดแทน โรคนี้ป้องกันโดยการรับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ ดื่มน้ำสะอาด และหมั่นล้างมือบ่อยๆ
5.โรคมือ เท้า ปาก
พบบ่อยในกลุ่มเด็กอายุน้อยกว่า 5 ปี ผู้ป่วยจะมีแผลหรือตุ่มในช่องปาก กระพุ้งแก้ม หรือมีผื่นแดงบริเวณฝ่ามือ ฝ่าเท้า สำหรับการรักษาจะรักษาตามอาการป่วย ผู้ปกครองและครูจะต้องสังเกตอาการผิดปกติของเด็ก ถ้าพบว่าเด็กมีอาการดังกล่าว ให้แยกเด็กป่วยออกจากเด็กปกติทันที