เงินทุุนมาแล้ว! ก.อุตฯ เตรียมปล่อยสินเชื่ออัดฉีด SME วงเงิน 3,000 ล้านบาท


กระทรวงอุตสาหกรรม อัดฉีดสินเชื่อกองทุน SME ประชารัฐ 3,000 ล้านบาท เพิ่มขีดความสามารถเกษตร อุตสาหกรรมเชิงสร้างสรรค์ และเทคโนโลยีดิจิทัล

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตฯ เตรียมอัดฉีดสินเชื่อกองทุนเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ เพื่อเป็นเงินลงทุนและเสริมสภาพคล่องแก่ SME โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายในสาขาธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม (Agro Industry) ทั้งด้านอาหาร และไม่ใช่อาหาร สาขาอุตสาหกรรมเชิงสร้างสรรค์ (Creative Industry) และธุรกิจอื่นๆ ที่จะใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการปรับปรุงกิจการให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น (Digital Transformation)

ในวงเงินรวม 3,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 1% วงเงินกู้สูงสุด 3 ล้านบาทต่อราย ระยะเวลากู้สูงสุดไม่เกิน 7 ปี สามารถใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนได้ไม่เกินร้อยละ 50 ของวงเงินอนุมัติ แต่ไม่เกิน 1.5 ล้านบาท

ทั้งนี้ ได้มีการนำเสนอต่อคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ ซึ่งมีปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นประธานเพื่ออนุมัติ เมื่อวันอังคารที่ 22 ตุลาคม 2562 นอกจากนี้ กองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีฯ ยังได้เตรียมเสนอชุดโครงการส่งเสริมพัฒนา SME จำนวน 750 ล้านบาท ควบคู่กับการปล่อยสินเชื่อ เพื่อเพิ่มศักยภาพการดำเนินธุรกิจของเอสเอ็มอี ให้มีประสิทธิภาพทั้งด้านการบริหารการผลิต การเงิน และการตลาด

“ที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2560 กองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ ได้อนุมัติสินเชื่อแก่ SME กลุ่มเป้าหมายทั่วประเทศไปแล้ว 10,567 ราย เป็นจำนวนเงิน 16,127 ล้านบาท ปัจจุบันยังเหลือวงเงินสินเชื่อที่จะปล่อยสินเชื่ออีก 3,000 ล้านบาท ซึ่งได้มีการออกแบบแพ็กเกจใหม่ที่ตอบโจทย์นโยบายรัฐบาลในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก เศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ และเศรษฐกิจดิจิทัล” นายสุริยะ กล่าว

สำหรับแพ็กเกจสินเชื่อวงเงิน 3,000 ล้านบาท เป็นหนึ่งในนโยบายเร่งด่วนของกระทรวงฯ ที่ทางกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ ได้ปรับปรุงกระบวนการคัดกรอง วิเคราะห์ และอนุมัติสินเชื่อให้มีความสะดวกรวดเร็ว และติดตามผลลัพธ์จากการปล่อยสินเชื่อ

โดยเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ SME ที่เป็นนิติบุคคลสมัครขอสินเชื่อดังกล่าวผ่านเว็บไซต์ www.smerescuecenter.com ได้ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2562 เป็นต้นไป คาดว่าสินเชื่อตัวใหม่นี้ จะสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้กับประเทศได้ไม่น้อยกว่าหมื่นล้านบาท