กินไว้ก่อน ป้องกันหัวจากไมเกรน


ไมเกรนรุนแรงกว่าที่คิด ข่าวมีให้เห็นไม่เว้นแต่ละวัน ไหนจะอุทาหรณ์จากการซื้อยากินเอง ข่าวเรียกคืนยาไมเกรนที่ปนเปื้อนแบคทีเรีย คุ้มมั้ย? ที่ต้องเอาชีวิตตัวเองมาเสี่ยงกับการกินยาไปตลอด ลองเปลี่ยนวิถีการกิน มาเลือกกินสิ่งที่ดีมีประโยชน์เพื่อช่วยลดอาการไมเกรนที่แสนทรมานกันดีกว่า

แมกนีเซียม

แมกนีเซียมที่จำเป็น มีการวิจัยพบว่าผู้ที่เป็นไมเกรนมักมีระดับแมกนีเซียมต่ำ ซึ่งอาจทำให้สมองมีความไวเป็นพิเศษต่อการเกิดไมเกรน การเสริมแมกนีเซียมจึงช่วยป้องกันไมเกรนได้ อาหารที่มีแมกนีเซียมสูงอย่างในผักใบเขียวเข้มอย่างผักเคล, เคลไดโนเสาร์, ผักโขม, ปวยเล้ง และบรอกโคลี นอกจากนี้ยังมีในอัลมอนด์, เมล็ดฟักทอง, งา, ควินัว และอะโวคาโด

โอเมก้า 3

นอกจากนี้การกินปลาเป็นทางเลือกที่ดี เพราะเป็นอาหารที่ย่อยง่าย แหล่งอาหารธรรมชาติชนิดนี้ยังมีประโยชน์ดีๆ ต่อร่างกาย โดยเฉพาะปลาทะเลน้ำลึกที่มีน้ำมันปลาหรือกรดโอเมก้า 3 สูงอย่าง ปลาแซลมอน, ปลาซาร์ดีน และปลาแมคเคอเรล ที่ช่วยทำให้หลอดเลือดมีความยืดหยุ่น บำรุงระบบประสาท ส่งผลให้ความถี่และความรุนแรงของไมเกรนน้อยลง

ธาตุเหล็ก

ธาตุเหล็กก็สำคัญ หนึ่งในสาเหตุของอาการปวดหัวบ่อยๆ อาจมาจากการขาดธาตุเหล็ก จึงต้องเสริมด้วยอาหารที่มีธาตุเหล็กให้เพียงพอ ไม่ว่าจะเป็นปลา, เป็ด, ไก่, ตับ, ม้าม, อาหารทะเล, เนื้อสัตว์, ไข่แดง รวมถึงผักใบเขียวเข้มทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นใบตำลึง, ผักโขม, ถั่วดำ, ถั่วแดง และข้าวโอ๊ต

วิตามินบี

วิตามินบีก็ขาดไม่ได้ โดยเฉพาะวิตามินบี 6 และบี 2 ที่มีส่วนช่วยบรรเทาอาการปวดหัวได้ โดยเฉพาะผู้หญิงที่มักเป็นไมเกรนจากการแปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในช่วงมีประจำเดือน ควรกินอาหารที่มีวิตามินบีเป็นประจำจะช่วยลดอาการไมเกรนลง 50% ซึ่งพบมากในธัญพืช ข้าวซ้อมมือ, ข้าวกล้อง, ไข่, ตับ, ปลา, แคนตาลูป และมันฝรั่ง

สมุนไพร

อย่ามองข้ามสมุนไพร พืชสมุนไพรใกล้ตัวหลายชนิดที่ดีต่อสุขภาพและยังมีสรรพคุณช่วยพิชิตไมเกรนได้อีกทาง สามารถนำมาชงดื่มได้ เช่น ชามะตูม, น้ำขิง, ชาเก๊กฮวย, น้ำกะเพราแดง และน้ำใบบัวบก หรือเลือกใช้ในการปรุงอาหาร เช่น พริกไทยดำ, ดอกแค และกระเทียม ที่สำคัญราคาไม่แพงและหาง่ายอีกต่างหาก

น้ำ

ไม่ว่าจะเป็นไมเกรนหรือไม่ก็ตาม การดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอในแต่ละวันเป็นสิ่งที่คนรักสุขภาพควรทำอยู่แล้ว นอกจากนี้การกินผลไม้ช่วยเติมน้ำให้ร่างกายได้อีกทาง ไม่ว่าจะเป็นแตงโม, แอปเปิ้ล, สาลี, มะพร้าว และแก้วมังกร จะกินสดๆ ก็อร่อยหรือทำน้ำผลไม้คั้นสกัดเย็นก็ยิ่งสดชื่น แถมได้ไฟเบอร์และวิตามินด้วย

ถึงแม้ว่าสาเหตุการเกิดไมเกรนในแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่มักถูกกระตุ้นได้จากความเครียดถึง 80% รองลงมาคือ ฮอร์โมน กลิ่น แสง ความร้อน รวมถึงอาหารบางชนิด เช่น เบคอน ไส้กรอก ฮอตดอก ช็อกโกแลต กาแฟ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผงชูรส จึงควรเลี่ยงสิ่งกระตุ้นเหล่านั้นเป็นดีที่สุด

สำหรับใครที่ไม่อยากพึ่งยาเคมีเพื่อรักษาไมเกรนตลอดชีวิต ลองมากินอาหารสุขภาพเพื่อช่วยบำบัดไมเกรนดู

อ้างอิง: ร้านฌานา