ปัญหาพนักงานลาออก เป็นเรื่องใหญ่ที่ทำทุกองค์กรปวดหัวอยู่เสมอ ซึ่งเหตุผลของการลาออกนั้น มีมากมายหลากหลายแตกต่างกันไป ทั้งลาออกไปทำธุรกิจส่วนตัว ลาออกไปช่วยเหลือครอบครัว หรือลาออกกลับไปถิ่นฐานบ้านเกิด ซึ่งการลาออกเหล่านี้ คุณไม่สามารถไปโน้มน้าวใจของเขาให้มาทำงานกับคุณได้ และมันควรจะเป็นการจากลากันด้วยดี
แต่มันมีการลาออกบางประเภท ที่คุณต้องไม่ทำให้เกิดขึ้น นั่นคือ ลาออกเพื่อไปทำงานกับบริษัทคู่แข่ง หรือลาออกเพราะปัจจัยต่างๆ ในออฟฟิศไม่เอื้ออำนวย โดยเฉพาะกับพนักงานฝีมือดี ที่คุณไม่อยากให้เขาลาออกแน่ๆ
ซึ่งปัญหาที่อยู่ๆ พนักงานคนนึงก็เดินมาลาออก โดยที่ไม่มีวี่แววนั้น อาจจะมาจากการที่เขาฝังใจกับวัฒนธรรม หรือปัญหาขององค์กรมาอย่างยาวนาน จนหมดความอดกลั้น และนี่คือ 4 เหตุผลปัญหาหลักที่เกิดขึ้นกับทุกองค์กรอยู่เสมอ
1. ระบบการทำงานไม่ตอบโจทย์
การทำงานในยุคสมัยนี้ มักจะใช้ระบบออนไลน์เป็นหลัก และอาศัยการติดต่อประสานงานทุกอย่างผ่านโซเชียลมีเดีย หรือแอปพลิเคชัน ซึ่งจะช่วยให้การทำงานสะดวกสบาย และง่ายดาย ประหยัดเวลาขึ้นมาก แต่ยังมีองค์กรไม่น้อยที่ไม่ยอมปรับตัว และยังคงทำงานแบบแมนนวล เข้างานเช้า ตอกบัตร สแกนนิ้ว และออกงานเย็น ซึ่งมันขัดกับไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ที่สามารถทำงานได้ทุกที่ ไม่โฟกัสเรื่องชั่วโมงการทำงาน แต่โฟกัสงานที่ต้องส่ง
ซึ่งถ้าคุณเองรู้ตัวว่าองค์กรกำลังล้าหลังอยู่แบบนี้ ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองทันที ค่อยๆ ปรับทีละนิด โดยอาจจะเริ่มจากสวัสดิการที่มอบให้ ไปจนถึงกำหนดระยะเวลาการเข้างาน ออกงาน ที่ยืดหยุ่น ก็จะพอตอบโจทย์คนยุคใหม่ที่เก่งและมีความสามารถในอนาคตต่อจากนี้ได้
2. ไม่มีพื้นที่ให้โชว์ของ
พนักงานที่คิดจะลาออก ไม่ใช่เพียงเพราะเขาเจองานยาก หรืองานที่ทำไม่ได้ แต่เป็นเพราะเขาต้องทนอยู่ในสภาพที่ไม่ได้ดั่งใจ และคิดว่ามันจะเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้อีกต่อไปแล้วมาเป็นเวลานาน อย่างการที่ถูกลดระดับ ไม่โดนเลื่อนขั้น หรือไม่ได้รับการโปรโมตให้แสดงฝีมือ และรับงานใหญ่สักที
ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องซีเรียสของพนักงานรุ่นใหม่มาก เพราะเด็กรุ่นนี้จะมองว่าตัวเองมีของ ไฟแรง และอยากใช้ทักษะที่มีมาช่วยบริหารจัดการสิ่งต่างๆ ให้ดีขึ้น ถ้าคุณมัวแต่ปิดกั้น และไม่รับฟังความคิดเห็น ยังถือหลักอาวุโสเป็นใหญ่ โดยไม่ใส่ใจเด็กหรือพนักงานรุ่นเล็ก การลาออกก็จะยังคงมีอย่างต่อเนื่องไม่มีทางหมดไปแน่นอน
3. เจอเพื่อนร่วมงานที่เข้ากันไม่ได้
เคมีของคนทำงานเป็นสิ่งที่หัวหน้า ต้องหมั่นสังเกตอยู่ตลอดเวลา เพราะทุกองค์กรมักจะมีพนักงานที่ชอบนินทา ชอบอวยหัวหน้า ชอบข่มเหงพนักงานด้วยกัน หรือพนักงานที่ขี้เกียจ อู้ และเอาเปรียบผู้อื่น ซึ่งคุณไม่มีทางรู้ได้เลยว่าใครเป็นยังไง นอกจากคุณจะลงมา Take Action ด้วยตัวเอง เพื่อให้พนักงานดีๆ ไม่มาลาออกแบบที่คุณไม่ตั้งตัว
โดยวิธีง่ายๆ ที่จะช่วยให้เข้าถึงนิสัยแต่ละคนได้ ให้คุณมอบกระดาษให้พนักงานทุกคน โดยกระดาษนั้น ต้องมีชื่อพนักงานทุกคนอยู่ด้วย และให้เขียนบรรยายลงมาว่า แต่ละคนเป็นยังไง มีจุดไหนต้องปรับปรุง ซึ่งพนักงานไม่ต้องเขียนชื่อของตัวเองลงไป จะได้ไม่ต้องกังวลว่าหลักฐานชิ้นนี้ จะทำให้เขาและเพื่อนร่วมงานผิดใจกัน
การทำแบบนี้จะทำให้คุณรู้เลยว่าพนักงานคนไหนมีนิสัยเป็นยังไง เพราะทุกคนจะเขียนความจริงลงไป โดยไม่ปิดบัง เนื่องจากตัวเองปลอดภัย ทำให้กล้าคอมเมนต์ความจริงออกมา ส่วนจะจัดการกับบุคคลนั้นเพื่อรักษาพนักงานคนอื่นเอาไว้ยังไงก็เป็นหน้าที่คุณแล้ว
4. โดนเอาเปรียบจากการทำงาน
แน่นอนว่าความเป็นนักธุรกิจ ผู้บริหารหลายคนจึงต้องการจ้างคนที่เก่ง ในปริมาณเงินเดือนที่ต่ำที่สุด เพื่อรักษารายจ่ายของบริษัทเอาไว้ แต่เพราะความกดดันในหน้าที่การงานที่มากเกินไปตรงนี้เอง ที่จะทำให้พนักงานรู้สึกเหมือนโดนเอาเปรียบ
ซึ่งมันจะไม่เกิดขึ้นกับพนักงานใหม่แน่นอน เพราะเขาตัดสินใจเข้ามาทำงานนี้ ด้วยเงื่อนไขที่คุณคุยกันกับเขาตั้งแต่ต้น แต่มันจะมีปัญหากับพนักงานเก่าที่ทำงานมานาน และโดนเพิ่มงาน โดนมอบหมายงานทั้งๆ ที่ตัวเองก็ได้เงินเดือนเท่าเดิม แต่กลับต้องรับผิดชอบมากขึ้น
เช่น หัวหน้าเก่าลาออกไป พนักงานคนนึง จึงต้องขึ้นมากุมบังเหียนแทน แต่อัตราเงินเดือนกลับเท่าเดิม หรือมากกว่าเดิมนิดหน่อย ห่างชั้นกับหัวหน้าคนเก่าไกล ตรงนี้พนักงานจะมีความรู้สึกในใจ และเป็นสิ่งที่คุณต้องจัดการ อาจจะเรียกคุยเพื่อปรับเงินเดือนอย่างจริงจัง หรือลดบทบาทหน้าที่ลงกระจายให้คนอื่นบ้าง เพื่อรักษาความรู้สึกของพนักงานคนดังกล่าวเอาไว้ ไม่ให้ลาออกแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยนั่นเอง