ทำไมธุรกิจยุคนี้ต้องทรานส์ฟอร์มถึงจะอยู่รอด
การทำธุรกิจสมัยนี้ เราไม่อาจทำแบบเดิม ขายแบบเดิม บริหารแบบเดิมได้อีกต่อไป เพราะความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยมากขึ้นจึงเข้ามาเปลี่ยนแปลง ทำให้ธุรกิจที่ทำอยู่ดียิ่งขึ้น
ภาระจากหน้าที่การงานที่ต้องรับผิดชอบในแต่ละวัน ทั้งจำนวนงานแต่มลพิษจากเพื่อนร่วมงานรอบตัวอาจจะส่งผลให้เกิดความเครียดสะสมมากกว่าเงินในบัญชีแบบที่คุณไม่รู้ตัว เพราะการทำงานไม่ว่าจะในตำแหน่งลูกน้อง เป็นเจ้านาย เป็นเจ้าของธุรกิจ หรือเป็นพนักงานพาร์ทไทม์ ไม่ว่าแบบไหนก็มีเครียดไม่ต่างกัน อยู่ที่ว่าจะเครียดมากเครียดน้อยเท่านั้นเอง
นอกจากนี้ ความเครียดยังเป็นเหมือนตัวบ่อนทำลายจิตใจ พอปล่อยไปนานๆ ยิ่งทำให้สุขภาพแย่ลง เกิดอาการเจ็บป่วย สุดท้ายงานก็ไม่เดิน เงินก็ไม่เข้า วันนี้ เรามีวิธีรับมือกับปัญหาความเครียด ก่อนที่มันจะทำให้สิ่งเลวร้ายต่างๆ ตามมาอย่างไม่หยุดไม่หย่อน ดังนี้
1. หาเวลาพักผ่อนจิตใจให้สงบ
1 วัน ทุกคนมีเวลา 24 ชั่วโมง น่าจะพอหาเวลาพักผ่อนให้กับจิตใจตัวเองสัก 10-20 นาทีได้ไม่ยากเกินไป หยุดสิ่งที่ทำอยู่ นวดหัวไหล่ ผ่อนคลายต้นคอ ปล่อยสมองให้ปลอดโปร่ง ลุกขึ้นยืดเส้นยืดสายสักหน่อย เดินไปรอบๆ ดื่มน้ำสักแก้ว ออกไปชมนกชมไม้ พักสายตาจากหน้าจอ คุยกับเพื่อนร่วมงานที่เดินผ่านไปผ่านมา ท่องไว้ว่าคุณไม่จำเป็นต้องทำงานตลอดเวลา ยิ่งถ้าไม่ได้พัก ยิ่งทำให้งานออกมาได้ไม่ดี พักเบรกสักนิดชีวิตจะได้ไม่เครียด
2. เคลียร์เรื่องที่ไม่เกี่ยวกับตัวเองออกไปบ้าง
ชีวิตวัยทำงาน ไม่เหมือนกับชีวิตวัยเรียนที่เราไม่ต้องมีเรื่องกังวลมากมาย ชีวิตการทำงานจริงๆ นั้น เราไม่มีเวลาว่างมาให้ความสนใจได้กับทุกเรื่อง ต้องมีเวลาให้ตัวเองได้หยุดพักหายใจบ้าง อะไรที่ไม่เกี่ยวกับเรา ตัดทิ้งไปได้เลย เพราะไหนๆ การโตเป็นผู้ใหญ่ก็ทำให้มีภาระหนักเกินอยู่แล้ว ยิ่งไปเก็บเรื่องเล็กๆ น้อยๆ มาใส่ใจยิ่งทำให้เครียดไปกันใหญ่ เก็บเฉพาะเรื่องที่จำเป็นไว้กับตัวเองก็พอ
3. เลิกเอาตัวเองไปเทียบกับคนอื่นได้แล้ว
มีไอดอลในดวงใจไว้ให้เดินตามมันก็ดี แต่ไม่ใช่ให้เราเอาตัวเองไปเทียบกับเค้าตลอดเวลา เพราะกว่าคนๆ นั้นจะประสบความสำเร็จจนเรายกให้เป็นไอดอลได้ เขาต้องผ่านประสบการณ์ผ่านเรื่องราวอะไรมาแล้วตั้งมากมาย การเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นมีแต่จะทำให้หนักใจไปเปล่าๆ เปลี่ยนเป็นการมองเค้าเป็นแรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิตดีกว่า แบบนี้ไม่เหนื่อยด้วย
4. ทำอะไรก็ทำทีละอย่าง
บางครั้งการที่เราตั้งใจทำอะไรแค่เพียงอย่างเดียว จะทำให้สิ่งนั้นออกมาได้ดีที่สุด ถึงแม้งานอาจจะเสร็จช้าลงหน่อย แต่แน่นอนเมื่อเราทุ่มเทเวลาให้สิ่งหนึ่งสิ่งใดเต็มที่ เราก็จะละเอียดลออกับมัน ไม่ต้องกลับมาแก้ซ้ำแก้ซ้อนทำให้เสียเวลา แถมไม่เครียดอีกต่างหาก
5. มีใครแล้วทำให้เครียด ก็ตัดทิ้งไป
มันต้องมีกันบ้างแหละเพื่อนบนเฟซบุ๊กบางคนที่พูดจาถากถางอยู่ตลอด บางทีก็แซะซะรู้เลยว่าหมายถึงเรา หรือคนรอบตัว เพื่อนร่วมงานที่มองโลกแง่ลบ คนแบบนี้ยิ่งทำให้สุขภาพจิตคุณเสีย คอยแต่จะเครียดซะเปล่าๆ ถ้าไม่ได้จำเป็นอะไรกับชีวิตคุณมากก็ลองๆ ตัดทิ้งแล้วไปไม่ต้องให้ความสำคัญ แล้วจะรู้ว่ามันสบายแค่ไหน…
