จีนแซงหน้าสหรัฐฯ ขึ้นแท่นประเทศที่มีเครือข่ายด้านการทูตใหญ่ที่สุดในโลก


สถาบันโลวี ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยของออสเตรเลียเปิดเผยรายงานประจำปีบ่งชี้ว่า จีนได้แซงหน้าสหรัฐขึ้นมาเป็นประเทศที่มีเครือข่ายด้านการทูตใหญ่ที่สุดในโลก

รายงานดัชนีการทูตทั่วโลก (Global Diplomacy Index) ประจำปี 2562 ของสถาบันโลวีที่เปิดเผยเมื่อวานนี้ บ่งชี้ว่า จีนไต่ขึ้นมาอยู่ที่อันดับสูงสุดดังกล่าวเป็นครั้งแรก ซึ่งตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นที่เพิ่มขึ้นของจีนในระดับสากล

ทั้งนี้ ดัชนีดังกล่าวเป็นการวิเคราะห์จำนวนสถานทูต และสถานกงสุลของประเทศต่างๆ ที่มีอยู่ทั่วโลก

สถาบันโลวีรายงานว่า จีนมีสถานที่ทางการทูต 276 แห่งทั่วโลก ซึ่งแซงหน้าสหรัฐเล็กน้อยที่มีอยู่ 273 แห่ง โดยพบว่า ทั้งสองประเทศมีจำนวนสถานทูตที่เท่ากัน แต่จีนมีสถานกงสุลทั่วโลกมากกว่าสหรัฐ

ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา จีนมีเครือข่ายระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นโดยเพิ่มสถานที่ทางการทูต 5 แห่ง หลังจากที่เปิดสถานที่ทางการทูตใหม่ 7 แห่ง และปิดไป 2 แห่ง โดยในปี 2559 จีนมีเครือข่ายด้านการทูตอยู่ในอันดับที่ 3 จากทั่วโลก รองจากสหรัฐ และฝรั่งเศส แต่ในปี 2560 จีนซึ่งเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจในเอเชียได้ขยับขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 2 รองจากฝรั่งเศส

ในช่วงเวลาเดียวกัน สหรัฐได้เพิ่มสถานที่ทางการทูตขึ้นเพียง 2 แห่ง สู่ระดับ 273 แห่ง จากเดิมที่ระดับ 271 แห่ง

อ้างอิง: Global Diplomacy Index