ทำธุรกิจอย่าลืมคิด Business Model นี่คือสิ่งที่จะ Disrupt ทุกคนได้ไม่ใช่แค่ Technology


ในวงการธุรกิจเราจะได้ยินคำว่า Disrupt กันอย่างหนาหู นั่นคือ การที่ธุรกิจยักษ์ใหญ่ หรือธุรกิจส่วนมากในอุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่ง ถูกธุรกิจใหม่ ๆ เข้ามาตีตลาด ซึ่งการ Disrupt นี้ไม่จำเป็นต้องมาจากเทคโนโลยี หรือนวัตกรรมแค่เพียงอย่างเดียว แต่สิ่งที่ทำให้ธุรกิจเล็ก ๆ สามารถล้มยักษ์ได้แบบไม่มีใครคาดคิด

นั่นเป็นเพราะ Business Model ที่ดี ซึ่งจุดนี้หลาย ๆ คนกลับหลงลืมไป และมองภาพกว้าง วาดฝันแต่จะนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ ซึ่งนั่นเป็นวิธีคิดที่ผิด

เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณต้องการแข่งขันและเอาชนะใครสักคนด้วยเทคโนโลยี เมื่อนั้นเท่ากับคุณกำลังแข่งกับเขาเรื่องต้นทุน และถ้าต้องเจอกับบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีสายป่านยาว ก็ไม่พ้นที่จะต้องยอมแพ้ในที่สุด แต่ถ้าคุณลงแข่งในสนามแห่ง Business Model ต่อให้เงินทุนไม่หนาพอ ก็สามารถล้มล้างธุรกิจขนาดใหญ่ได้อย่างไม่น่าเชื่อ

Business Model คืออะไร

Business Model เป็นแบบจำลองธุรกิจที่จะสร้างขึ้นมาให้เห็นภาพรวมธุรกิจเราแบบครบถ้วนทุกมุม ทำให้เราสามารถวางธุรกิจต่าง  ออกมาได้อย่างเป็นระบบมากขึ้น เป็นเหมือนการวิเคราะห์ความเป็นไปของธุรกิจแบบง่าย ๆ ซึ่งจะมีหัวข้อหลัก ๆ ให้ได้ร่วมระดมสมอง หรือ Brain Storm ให้เห็นภาพรวมไปพร้อม ๆ กัน คือ

1. Value Proposition : สินค้า บริการเราดียังไง ทำไมคนถึงต้องใช้บริการเรา
2. Customer Segment : กลุ่มเป้าหมายเราคือใคร
3. Key Activities : สิ่งที่เราจะทำเป็นหลัก หน้าที่สำคัญของเรา
4. Key Resource : ของที่เรามีอยู่แล้วก่อนเริ่มธุรกิจ แบบไม่ต้องลงทุนเพิ่มมีอะไรบ้าง
5. Key Partnership : ใครที่จะร่วมเป็นพาร์ทเนอร์ด้วย
6. Channel : เราจะนำเสนอสินค้าเราในช่องทางไหน
7. Customer Relationship : สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้ายังไง ทำยังไงให้ลูกค้าชอบ ติดใจ อยากกลับมาซื้อ
8. Revenue Streams : ธุรกิจเราจะทำเงินจากทางไหน ยังไงบ้าง
9. Cost Structure : ต้นทุนที่เราต้องจ่ายมีอะไรบ้าง

นี่เป็น 9 องค์ประกอบหลัก ๆ ของการทำ Business Model ให้ออกมาเห็นภาพชัดเจนมากขึ้น ซึ่งตรงนี้เองที่ถ้าคุณสามารถใส่ความคิดสร้างสรรค์ลงไปได้มาก ปรับเปลี่ยนวิธีการนำเสนอ และทำสิ่งนั้นให้ตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าได้มากที่สุด ก็จะช่วยให้ธุรกิจคุณโตไว แม้จะไม่ได้ลงทุนมหาศาลเท่าธุรกิจยักษ์ใหญ่ก็ตาม