Luckin Coffee ได้รับความสนใจจากนักลงทุนจนทำให้หุ้นพุ่งขึ้นครั้งใหญ่ หลายคนถึงกับเรียกมันว่าเป็น Starbucks ของจีน ความจริงของกาแฟแบรนด์นี้คืออะไรกันแน่ การนำไปเปรียบเทียบกับยักษ์ใหญ่อย่าง Starbucks เป็นการเปรียบเทียบที่ถูกต้องแล้วแน่หรือ
Luckin Coffee ก่อตั้งขึ้นในเดือนมิถุนายน 2017 นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมากลายเป็นเชนกาแฟที่ใหญ่เป็นอันดับสองในประเทศจีนที่มีสาขามากกว่า 3,000 แห่ง มันเป็นเรื่องน่าดึงดูดใจที่จะเปรียบเทียบ Luckin Coffee กับ Starbucks อย่างไรก็ตาม Luckin และ Starbucks มีรูปแบบธุรกิจที่แตกต่างกันอย่างมากและการเติบโตในอนาคตและความสามารถในการทำกำไรในจีนของ Luckin อาจจะน้อยกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับ Starbucks
ในขณะที่ Starbucks เติบโตอย่างรวดเร็วนับตั้งแต่เข้าสู่ตลาดกาแฟของจีน แต่ก็ให้บริการเครื่องดื่มกาแฟกับคนจีนจำนวนน้องเท่านั้น เนื่องจาก Starbucks มีต้นทุนโดยเฉลี่ยประมาณ 30 หยวน ($ 4.30) ต่อถ้วย กลุ่มลูกค้าจึงเป็นคนร่ำรวยเท่านั้น นอกจากนี้จำนวนร้านของ Starbucks ที่มีเพียง 3,000 แห่งเท่านั้นในประเทศจีน เทียบกับจำนวนประชากรแล้วถือว่าน้อยมาก
ดังนั้นยังคงมีช่องว่างของตลาดกาแฟขนาดใหญ่มากในจีนและเป็นตลาดในราคาที่ต่ำกว่า Starbucks ตรงจุดนี้เองที่ทำให้ Luckin ก้าวเข้ามาด้วยต้นทุนเฉลี่ยประมาณ 10-11 หยวนต่อถ้วย ($ 1.50) เท่านั้น เป็นการตั้งเป้าหมายไว้ที่กลุ่มคนจำนวนมาก นอกจากนี้ยังนำเสนอสถานที่ที่สะดวกกว่าสตาร์บัคส์ในหลายกรณีเนื่องจากรูปแบบร้านค้ามีความยืดหยุ่นมากกว่า
อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าตลาดราคาต่ำยังคงเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน จากข้อมูลของกองทุน Frees ซึ่งเป็นกองทุนร่วมทุนที่มีชื่อเสียงของจีนระบุว่ากาแฟสำเร็จรูปมีสัดส่วนในตลาดกาแฟของจีนสูงมากถึง 65-70% ตลาดนี้ถูกครอบงำโดยแบรนด์ตะวันตกเช่น Nestle และ Maxwell
ในตลาดระดับกลาง Luckin ต้องแข่งขันกับร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-Eleven และ Family Mart อย่างไรก็ตามปัญหาหนึ่งที่พบในร้านสะดวกซื้อก็คือมีการใช้เวลาในการรอคอยที่ยาวนาน เนื่องจากผู้บริโภคไม่สามารถสั่งซื้อกาแฟล่วงหน้าโดยใช้แอปฯ บนมือถือได้ นี่คือจุดที่ Luckin มีความได้เปรียบเนื่องจากคุณสามารถสั่งซื้อในแอปฯ ของ Luckin และรับกาแฟได้ภายใน 3 นาทีจากร้านสาขาที่อยู่ใกล้ที่สุด นี่เป็นเรื่องที่โดนใจนักดื่มกาแฟจำนวนมากที่ไม่ต้องการเสียเวลารอ
ส่วนในตลาดระดับไฮเอนด์ Starbucks และเครือข่ายร้านกาแฟเกิดขึ้นใหม่ยังคงเป็นผู้เล่นหลักอยู่
นักลงทุนควรตั้งคำถามถึงการเติบโตและผลกำไรของ Luckin ในขณะที่มันมีการเติบโตอย่างรวดเร็วนับตั้งแต่ก่อตั้ง และปรากฏว่าผลกำไรของบริษัทดีขึ้น แต่นักลงทุนก็ยังคงตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับความยั่งยืนของโมเดลธุรกิจของ Luckin ซึ่งต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์กันต่อไป
อ้างอิง: