Agoda เผยนักท่องเที่ยวเทใจให้ “เชจู” มากเป็นอันดับหนึ่ง


งานวิจัยใหม่ของ Agoda พบว่า เหตุผลอันดับต้น ๆ ที่ผู้คนอยากเที่ยวคือ “ธรรมชาติหรือทิวทัศน์” โดยเกาะเชจูในเกาหลีใต้มีครบทุกอย่างที่ต้องการ ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่เกาะเชจูได้กลายเป็นจุดหมายยอดนิยมของนักเดินทาง เนื่องจากเชจูมีทั้งภูเขา ชายหาด บวกกับวิถีชีวิตที่ผ่อนคลาย นักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศจึงเทใจให้กับที่นี่

สิ่งที่นักท่องเที่ยวอาจไม่รู้ก็คือ เชจูเป็นจุดหมายปลายทางที่เที่ยวได้ตลอดทั้งปี แน่นอนว่าในช่วงซัมเมอร์ ชายหาดที่งดงามดึงดูดนักน่องเที่ยวมาเยือน แต่ในฤดูหนาว ซึ่งความชื้นในอากาศต่ำลง ท้องฟ้าใสขึ้น และอากาศเย็นลง เชจูก็เฟอร์เฟ็กต์สุด ๆ สำหรับกิจกรรมอย่างการเดินเขา รวมถึงกิจกรรมที่น่าสนใจอื่น ๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ที่พักยังช่วยให้นักเดินทางสัมผัสกับความงดงามของเชจูได้อย่างเต็มอิ่ม

สัมผัสธรรมชาติตามแนวชายฝั่งราวกับอยู่ในซีรีส์เกาหลี

เริ่มด้วยแนวชายฝั่งของเชจู ซึ่งมอบวิวทิวทัศน์ทางธรรมชาติอันน่าอัศจรรย์ หน้าผาจูซังจอลลี (Jusangjeolli Cliff) เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดของเกาะ ตั้งอยู่ในเขตท่องเที่ยวจองมุนทางตะวันออก โดยที่จุดชมวิวใกล้เคียงนั้น นักท่องเที่ยวจะได้ตื่นตาตื่นใจกับระลอกคลื่นซัดเสาหินยักษ์ที่ลดหลั่นเป็นขั้น ๆ

ส่วนยอดเขาซองซาน อิลชุบง (Seongsan Ilchulbong Peak) จุดท่องเที่ยวชื่อดังสำหรับชมพระอาทิตย์ขึ้นที่งดงามราวภาพวาด เปิดโอกาสให้ได้เห็นหน้าผาริมชายฝั่งอันน่าพิศวงที่อยู่ใกล้เคียง หากนักท่องเที่ยวไม่ต้องการปีนขึ้นไปยังจุดสูงสุด ก็สามารถเลือกชมวิวจากหาดใกล้เคียงอย่างชายหาดควัง (Gwangchigi Beach) ซึ่งไม่ว่าจะเลือกทางใดก็คุ้ม

นอกจากนี้ยังมีซอพจิโกจิ (Seopjikoji) สถานที่ชื่อดังที่ใช้เป็นโลเคชั่นถ่ายทำซีรีส์ทีวีเกาหลี ซึ่งมีทางเดินที่มองเห็นวิวชายฝั่งที่สวยงาม ขณะที่น้ำตกชองบัง (Jeongbang Falls) ก็มอบทิวทัศน์ที่มีเอกลักษณ์ของน้ำที่ไหลลงสู่ทะเลโดยตรง

เกาะภูเขาไฟสุดอลังการ

ฮัลลาซาน (Hallasan) ภูเขาที่สูงที่สุดในเกาหลีใต้ คือภูมิทัศน์ที่โดดเด่นสะดุดตาของเชจู ภูเขาไฟที่สงบอยู่แห่งนี้มียอดสูงจากน้ำทะเลเกือบ 2,000 เมตร แต่ก็ปลอดภัยมากเพราะภูเขาไฟลูกนี้ไม่ปะทุมานาน 1,000 ปีแล้ว ขณะที่ถ้ำหลายแห่งบนเกาะเชจูมีร่องรอยการไหลผ่านของลาวาให้เห็น ซึ่งกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของนักท่องเที่ยวมายาวนาน

โดยอุโมงค์ลาวามานจังกุล หรือ Manjanggul Lava Tube (ยาว 7.4 กม.) มีรูปแบบของถ้ำที่หลากหลาย รวมถึงแนวการไหลของลาวาที่ใหญ่ที่สุดในโลก ส่วนอุโมงค์ลาวาฮยอพแจกูล (Hyeopjaegul Lava Tube) และถ้ำซางยองกุล (Ssangyonggul Cave) ซึ่งตั้งอยู่ในสวนฮัลลิม (Hallim Park) ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของถ้ำลาวาและหินปูนที่น่าทึ่ง

ทิวทัศน์หิมะที่งดงามบนภูเขาฮัลลาซาน

ภูเขาฮัลลาซานเป็นอีกจุดหมายปลายทางที่น่าประทับใจ ด้วยทิวทัศน์หิมะตลอดฤดูหนาว และมีทางเดินขึ้นเขามากมายซึ่งให้วิวหิมะปกคลุมตระการตาแตกต่างกันไป เส้นทางซองพานัก (Seongpanak) ซึ่งทอดยาวไปถึงทะเลสาบปล่องภูเขาไฟแบงนกดัม (Baengnokdam) อันสวยงาม เป็นจุดที่ท้าทายที่สุด แต่ก็มอบทัศนียภาพหิมะปกคลุมที่ดีที่สุดสำหรับนักปีนเขาที่เตรียมตัวมาเที่ยวช่วงฤดูหนาว

สำหรับมือใหม่ ลองเส้นทางเดินเขายองซิล (Yeongsil) ซึ่งมีระยะทางสั้นที่สุด หรือเส้นทางออรีมก (Eorimok) ซึ่งชันน้อยกว่าดูได้ นักท่องเที่ยวเดินทางไปฮัลลาซานได้อย่างง่ายดายด้วยรถบัส

สีแดงแห่งฤดูหนาว

ฤดูหนาวในเชจูไม่ได้มีแต่ความขาวโพลนเท่านั้น แต่ยังมีสีแดงด้วย แม้ในช่วงหิมะตก เชจูก็ยังงดงามด้วยต้นคาเมลเลียที่ออกดอกในช่วงหน้าหนาว นักท่องเที่ยวสามารถชมความงามได้จากหลายจุด หนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุด คือ คาเมลเลียฮิลล์ (Camellia Hill) สวนพฤกษศาสตร์ที่ปลูกต้นคาเมลเลีย 500 ชนิด รวม 6,000 ต้น ซึ่งรวมถึงต้นคาเมลเลียที่ใหญ่ที่สุดในโลก หรือไปเที่ยวชมคาเมลเลียทาวน์ (Camellia Town) ในย่านซินเฮือง ที่อบอวลด้วยกลิ่นหอมของดอกคาเมลเลีย และป่าคดจาวัล (Gotjawal) ในย่านซอนฮึล (Seonheul) ป่าดิบที่มีเอกลักษณ์ในเขตพื้นที่ลาวา

นักท่องเที่ยวที่อยู่ในเกาหลีใต้สามารถเดินทางโดยเครื่องบินภายในประเทศไปยังเกาะเชจูได้ทุกวัน หรือบินตรงจากต่างประเทศไปที่เกาะเชจูได้เช่นกัน แน่นอนว่าประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในนั้น

อ้างอิง: อโกด้า