แก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำจืดด้วย เครื่องสร้างน้ำจากอากาศ


สตาร์ทอัพจากอิสราเอล ได้คิดค้นและพัฒนาเทคโนโลยีการดึงน้ำจากความชื้นในอากาศมาผลิตเป็นน้ำจืดสามารถบริโภคได้ มีความสะอาดปราศจากมลพิษ นี่คือวิทยาการสมัยใหม่ที่สามารถแก้ไขการขาดแคลนน้ำจืดจากแหล่งน้ำธรรมชาติได้อย่างยั่งยืน

“การแปลงอากาศเป็นน้ำด้วยเครื่องผลิตน้ำจากอากาศ” หรือ Atmospheric Water Generator : AWG เป็นผลงานจากสตาร์ทอัพของอิสราเอล ความน่าสนใจของนวัตกรรม AWG อยู่ที่กระบวนการผลิตน้ำ ซึ่งนอกจากจะมีความปลอดภัยและสะอาดแล้ว เครื่องมือดังกล่าวยังสามารถผลิตน้ำดื่มสะอาดได้ในปริมาณมาก สามารถช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกจากการใช้น้ำดื่มแบบบรรจุขวด

น้ำดื่มที่ได้จากการผลิตเป็นน้ำที่สะอาดบริสุทธิ์รสชาติคล้ายน้ำฝน ไม่มีการบำบัดด้วยสารเคมีหรือคลอรีน นอกจากนี้ ยังจะช่วยในเรื่องของระบบชลประทานในพื้นที่ฟาร์ม ที่สามารถลดการกักเก็บน้ำ เหมาะกับการปลูกพืชแนวดิ่งที่มีคุณภาพสูงลดอุปสรรคในการขนส่งหรือลำเลียงน้ำ เนื่องจากสามารถติดตั้งได้ในทุกพื้นที่แม้สภาพแวดล้อมจะไม่มีความเหมาะสม รวมถึงช่วยแก้ปัญหาเรื่องการผูกขาดของตลาดสินค้าน้ำดื่มได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

คาดการณ์ว่าเครื่องผลิตน้ำจากอากาศจะขยายตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากปริมาณน้ำจืดสำรองที่ลดลงและจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น โดยอัตราการเติบโตของตลาดจะอยู่ที่ 9.5% ต่อปี ส่วนแนวโน้มการใช้เทคโนโลยี AWG ระหว่างปี 2019 – 2022 คาดว่าจะมีการใช้เพิ่มขึ้นอย่างแพร่หลาย

โดยในปี 2019 AWG จะถูกนำไปประกอบการชลประทานขนาดใหญ่ของพื้นที่เพาะปลูกในเขตแห้งแล้งและกึ่งแห้งแล้ง

ปี 2020 จะมีการใช้ AWG ขนาดใหญ่ในที่พักตามเมืองเล็กๆ และชุมชน ซึ่งจะทำให้ไม่มีมลพิษ มีน้ำสะอาดเพื่ออุปโภคบริโภค และช่วยลดการใช้น้ำตามแหล่งธรรมชาติ

ขณะที่ปี 2021 คาดว่าจะมีการติดตั้งระบบ AWG ในรถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงไฮโดรเจน ซึ่งจะช่วยสร้างน้ำจืดได้ตามระยะการเดินทางของรถ

ส่วนในปี 2022 คาดว่าน้ำที่ผลิตได้คุณภาพตามหลักเกณฑ์ขององค์การอนามัยโลก (WHO) จะมีรายได้ในตลาดโลกอยู่ที่ 1.1 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ

ปัจจุบัน น้ำกลายเป็นปัจจัยหนึ่งในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของโลกอย่างชัดเจน ประเทศที่มีระบบการจัดการน้ำที่ดี ย่อมส่งผลต่อการพัฒนาของประเทศที่มั่นคงยั่งยืน ดังนั้น การเข้ามาของนวัตกรรม AWG จึงถือเป็นอีกโอกาสสำคัญสำหรับผู้ประกอบการในการพัฒนาระบบหรือเครื่องมือดังกล่าวประสิทธิภาพให้มีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น

อ้างอิง: สถาบันการมองอนาคตนวัตกรรม สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)