“ลัคกิน คอฟฟี” แบรนด์กาแฟเจ้าถิ่นจีน เดินหน้ารุกกลยุทธ์ค้าปลีก ‘ไร้พนักงาน’


ลัคกิน คอฟฟี่ แบรนด์กาแฟรายใหญ่ที่สุดของจีน ที่สร้างความฮือฮาอย่างมาก โดยสามารถเปิดสาขาในประเทศจีนมีจำนวนมากกว่าสตาร์บัคส์ไปเป็นที่เรียบร้อย ทำให้ในปี 2020 ลัคกิ้น คอฟฟี่ มีสาขารวมกันทั้งหมด 4,910 แห่ง ขณะที่สตาร์บัคส์มีสาขาจำนวน 4,300 แห่ง ถือได้ว่าเป็นแบรนด์กาแฟที่น่าจับตามองอย่างมาก

สำนักข่าวซินหัว มีรายงานว่า ลัคกิน คอฟฟี (Luckin Coffee) หนึ่งในแบรนด์กาแฟยักษ์ใหญ่ที่สุดบนแดนมังกร กระโดดเข้าร่วมการแข่งขันในตลาดค้าปลีกแบบ “ปลอดพนักงาน” เพื่อมุ่งขยายเครือข่ายธุรกิจและเข้าถึงลูกค้ามากยิ่งขึ้น

นอกจากนั้นลัคกินยังเปิดตัวเครื่องทำกาแฟอัจฉริยะ “ลัคกิน คอฟฟี เอ็กซ์เพรส” (Luckin Coffee Express) และเครื่องจำหน่ายกาแฟอัตโนมัติอัจฉริยะ “ลัคกิน คอฟฟี ป๊อป มินิ” (Luckin Coffee Pop MINI) ในการประชุมกลยุทธ์ ณ กรุงปักกิ่ง

เครื่องจำหน่ายกาแฟอัตโนมัติแบบ “ไร้พนักงาน” จะถูกติดตั้งในสถานที่ต่าง ๆ อาทิ อาคารสำนักงาน มหาวิทยาลัย สนามบิน สถานีขนส่ง ปั๊มน้ำมัน และจุดให้บริการบนทางหลวง โดยลูกค้าจะได้เพลิดเพลินกับความสะดวกสบายของตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติในราคาที่ถูกลง

เจนนี่ เฉียน ประธานบริหารของลัคกิน คอฟฟี กล่าวว่า เครือข่ายการค้าปลีกแบบไร้พนักงาน ภาพจำของผู้คนที่มีต่อร้านค้า และช่องทางอีคอมเมิร์ซ ได้ก่อให้เกิดเครือข่ายการให้บริการแบบติดต่อสื่อสารกับลูกค้าผ่านหลากหลายช่องทาง (omnichannel) ซึ่งเชื่อมโยงช่องทางต่าง ๆ ให้เป็นหนึ่งเดียว

บรรดาคนวงในอุตสาหกรรมกาแฟชี้ว่ากลยุทธ์การค้าปลีกแบบไร้พนักงานจะช่วยลดต้นทุน กระตุ้นความสนใจ และเพิ่มความถี่ในการซื้อกาแฟของลูกค้า

ทั้งนี้ ลัคกิน คอฟฟี ก่อตั้งขึ้นที่เมืองเซี่ยเหมิน มณฑลฝูเจี้ยนของจีน เมื่อปี 2017 และจดทะเบียนในตลาดหุ้นแนสแด็ก (NASDAQ) ของสหรัฐฯ โดยลัคกิน คอฟฟี ก้าวครองตำแหน่งบริษัทกาแฟชั้นนำในตลาดจีนหลังเปิดสาขาในกว่า 40 เมือง คิดเป็นจำนวน 4,507 แห่ง เมื่อนับถึงสิ้นปี 2019 มีจุดเด่นที่เทคโนโลยีการจำหน่ายและคุณภาพสินค้าเหมาะสมกับราคา

 

Source: สำนักข่าวซินหัว