CES 2020 Survey เผยผู้บริโภคต้องการเพื่อตอบโจทย์เฉพาะบุคคล แต่ไม่พร้อมเสียเวลาคอย


ผู้บริโภคในสหรัฐฯ จีน และฝรั่งเศส มีความต้องการซื้อสินค้าและใช้บริการที่ออกแบบมาตรงตามรสนิยมส่วนบุคคลของกลุ่มสินค้าเฮลท์แคร์, โมบิลิตี้, ค้าปลีก และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกภายในบ้าน

ผลจากการสำรวจบอกว่า

ผู้บริโภคต้องการสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์เฉพาะบุคคล แต่ไม่พร้อมเสียเวลาคอย 83% ของผู้บริโภคคาดว่าสินค้าหรือบริการจะสามารถปรับให้เข้ากับการตอบโจทย์เฉพาะบุคคลได้ในระยะเวลาอันสั้น โดยมีเพียง 21% เท่านั้นที่จะพร้อมคอยเกินสี่วันในการส่งมอบสินค้าหรือบริการที่ออกแบบผลิตภัณฑ์ตอบโจทย์เฉพาะบุคคล

ผู้บริโภคยินดีที่จะจ่ายเงินเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 25.3% สำหรับสินค้าและบริการที่ออกแบบตอบโจทย์เฉพาะบุคคล ในทางกลับกัน พวกเขาคาดหวังว่าจะได้รับสิ่งตอบแทนในรูปแบบของการประหยัดค่าใช้จ่ายลง 25.6% สำหรับการให้ข้อมูลของพวกเขา พวกเขายินดีมากกว่าที่จะจ่ายเพื่อเฮลธ์แคร์ที่ออกแบบตอบโจทย์เฉพาะบุคคล แต่ยินดีน้อยกว่าที่จะจ่ายสำหรับสินค้าและบริการในด้านค้าปลีก

อุตสาหกรรมมีโอกาสกำหนดแนวทางการออกแบบผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์เฉพาะบุคคลอย่างชัดเจน ผู้บริโภคเข้าใจถึงผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์เฉพาะบุคคลแตกต่างกันไป โดยพบว่า กว่า 50% ของผู้ตอบแบบสอบถามกำหนดว่าเป็นสินค้าและบริการที่พวกเขากำหนดได้เองก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ และ 63% ของผู้ตอบแบบสอบถามมองว่าเป็นสินค้าและบริการที่พวกเขากำหนดในรายการซื้อได้ด้วยตนเอง เช่นเดียวกับสินค้าและบริการที่พัฒนามาจากข้อมูลส่วนบุคคล

ผู้บริโภคมีความสนใจมากที่สุดในสินค้าและบริการตอบโจทย์เฉพาะบุคคลที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น แผนสุขภาพโดยอิงตามพฤติกรรมของแต่ละบุคคลและระบบเตือนเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ เช่น การหกล้ม

การออกแบบผลิตภัณฑ์ตอบโจทย์เฉพาะบุคคลเพื่อความปลอดภัยส่วนบุคคลคือสิ่งที่ผู้บริโภคให้ความสนใจเช่นเดียวกัน เช่น สินค้าและบริการที่แจ้งเหตุฉุกเฉินที่เกิดขึ้นภายในบ้าน แจ้งเตือนอาชญากรรมตามจุดที่ผู้บริโภคอยู่และส่งตำแหน่งไปยังตำรวจในช่วงเวลาที่มีความสุ่มเสี่ยงต่อความความปลอดภัย
96% ของผู้ตอบแบบสอบถาม ยังพุ่งประเด็นความกังวลไปที่ ความเป็นส่วนตัวของข้อมูล

ผู้บริโภคส่วนใหญ่ยินยอมที่จะแบ่งปันข้อมูลเพื่อแลกกับการได้ใช้สินค้าและบริการที่ตอบโจทย์การใช้งานของตนเอง โดยหกในสิบของผู้ตอบแบบสอบถามเต็มใจที่จะแบ่งปันเฉพาะข้อมูลที่ไม่ต้องเปิดเผยตัวตน ขณะที่ผู้ตอบแบบสอบถาม 88% จะหยุดใช้บริการนั้นถ้าไม่มั่นใจถึงวิธีการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล และ 68% จากผู้ตอบแบบสอบถาม มองว่าความต้องการใช้สินค้าและบริการจะนำไปสู่การปกป้องข้อมูล

เอไอ 5G และผู้ช่วยอัจฉริยะภายในบ้าน มีความจำเป็นต่อการออกแบบผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์เฉพาะบุคคล ผู้ตอบแบบสอบถามประมาณครึ่งหนึ่ง มองว่าการพัฒนา 5G เพื่อออกแบบสินค้าและบริการให้ตอบโจทย์เฉพาะบุคคลจำเป็นอย่างยิ่งต่อธุรกิจเฮลธ์แคร์มากที่สุดรองจาก ธุรกิจค้าปลีก

คนต่างเจนเนอเรชั่นมีความคาดหวังต่อการตอบโจทย์เฉพาะบุคคลที่แตกต่างกันไป กลุ่มเจเนอเรชั่น X กลุ่มมิลเลนเนียล และชาวเจนเนอเรชั่น Z ยินดีที่จะแบ่งปันข้อมูลเพื่อการตอบโจทย์เฉพาะบุคคลที่ดียิ่งขึ้น และมีแนวโน้มที่จะเห็นด้วยต่อความปลอดภัยส่วนบุคคล เวลา และความคุ้มค่าของเงินที่ได้รับ มากกว่ากลุ่มเบบี้บูมเมอร์ และกลุ่มไซเลน เจนเนอรชั่น (รุ่นคุณตาคุณยาย) โดยคนกลุ่มเบบี้บูมเมอร์ราว 6% ให้ความสนใจกับสินค้าและบริการเฮลธ์แคร์ที่สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการส่วนบุคคล 24% ของเจนเนอเรชั่น Z สนใจเกี่ยวกับโมบิลิตี้ ขณะที่ 21% ของชาวมิลเลนเนียลสนใจประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อม

ผู้บริโภคชาวจีนชื่นชอบการตอบโจทย์เฉพาะบุคคลมากกว่า ผู้บริโภคชาวอเมริกันและฝรั่งเศส แต่ชาวอเมริกันกลับมีความคาดหวังสูงสุด ผู้บริโภคชาวอเมริกันส่วนใหญ่คาดว่าสินค้าและบริการที่ออกแบบขึ้นเพื่อตอบโจทย์เฉพาะบุคคลจะกลายเป็นเรื่องปกติในปี 2030 และยินดีที่จะซื้อสินค้าและบริการดังกล่าว

ผู้บริโภคต้องการประสบการณ์ในการตอบโจทย์แต่ละบุคคลแตกต่างกันไป โดยเฉพาะผู้บริโภคกลุ่มคนรุ่นใหม่ ดังนั้นโซลูชั่นสำหรับผู้ผลิตในการลงทุนผลิตสินค้าและบริการจำพวกนี้คือการรวบรวม วิเคราะห์ และปรับเปลี่ยนข้อมูล พร้อมคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวทางข้อมูลของลูกค้าแต่ละคน

ข้อมูลที่ได้จากการสำรวจมาจาก แดสสอล์ท ซิสเต็มส์ ร่วมกับ บริษัทวิจัยอิสระ CITE Research จัดทำแบบสำรวจออนไลน์กับผู้บริโภคที่บรรลุนิติภาวะ 3,000 คน ที่อาศัยอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา จีน และฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 23 พฤศจิกายน – 4 ธันวาคม 2562

อ้างอิง: www.3ds.com